เพราะเห็นแก่ตัว


    ปัญหาของโลก ปัญหาของแต่ละคน อยู่ที่ไหน อยู่ที่ความเห็นแก่ตัว เพราะเข้าใจว่ามีตัว มีเรา ไม่รู้ว่าแท้ที่จริงเป็นธรรม เราเลือกเกิดไม่ได้ แต่ทำไมเกิดมาเป็นคนนี้ อยู่ตรงนี้ ก็เป็นธรรมทั้งหมด ที่เป็นนามธรรม และเป็นรูปธรรม เมื่อไม่มีความเข้าใจว่า ไม่มีเรา มีแต่ธรรม ก็เข้าใจผิดว่า ธรรมเป็นเรา

    เพราะฉะนั้น เกิดมาเป็นธรรมหมด เห็นก็เป็นธรรม ได้ยินก็เป็นธรรม สุขก็เป็นธรรม ทุกข์ก็เป็นธรรม ต้องไม่ลืม ทุกอย่างไม่เว้นเลย สิ่งที่มีจริงทั้งหมดนั่นแหล่ะเป็นธรรม แต่เมื่อไม่รู้ว่าเป็นธรรม ความไม่รู้ก็ทำให้ยึดถือสิ่งที่มีว่าเป็นเรา เมื่อเป็นเราก็รักเรา ทุกอย่างเพื่อเรา เพราะฉะนั้น ปัญหาของคนทั้งโลก ไม่ใช่แต่เฉพาะคนที่ทำลายป่า ไม่ว่าอะไรทั้งหมดเพราะมีความเห็นแก่ตัว เพราะเข้าใจว่า มีตัว

    ด้วยเหตุนี้ ถ้าเรามีความเข้าใจถูกว่า ไม่มีเรา แต่มีธรรม และมีธรรมที่เป็นฝ่ายดี ซึ่งจะต้องให้ผลที่ดี เกิดดี เห็นดี ได้ยินดี ได้กลิ่นดี ลิ้มรสดี รู้สิ่งที่กระทบดี ทั้งวันก็ไม่พ้นจากธรรมที่จะต้องได้ยิน ได้เห็น กลิ่น รสต่างๆ พวกนี้ ใครพ้นบ้าง เมื่อวานนี้ก็เป็นอย่างนี้ วันนี้ก็เป็นอย่างนี้ ต่อไปก็เห็นอีก ได้ยินอีก ก็เท่านี้ และเมื่อวานนี้ก็ไม่ใช่วันนี้ หมดแล้วไม่เหลือเลย กลับมาอีกก็ไม่ได้ พรุ่งนี้ก็ไม่ใช่วันนี้ ก็เป็นเหมือนอย่างวันนี้ ซึ่งเกิดดับอยู่เรื่อยๆ ตลอดเวลา ไม่มีใครทั้งสิ้น แต่เป็นธรรมที่เกิดเป็นไป ห้ามไม่ให้เกิดก็ไม่ได้ อยากให้เกิดอย่างที่ต้องการก็ไม่ได้ เพราะต้องเป็นไปตามปัจจัย

    ด้วยเหตุนี้ ถ้ารู้จริงๆ ว่าธรรมที่เป็นเหตุที่ดี ทำให้เกิดผลที่ดี ได้แก่ เกิดดีเป็นผลที่ดี เกิดแล้วเห็นดี ได้ยินดี ได้กลิ่นดี ลิ้มรสดี รู้สิ่งที่กระทบสัมผัสดีทั้งนั้น วันนั้นอารมณ์ดี เพราะเหตุว่า มีสิ่งที่ดีทั้งวัน ถ้าเรารู้อย่างนี้ว่า ทั้งหมดมาจากคุณความดี แต่ความไม่ดีทั้งหลายก็ไม่มีใครอยากเจ็บอยากป่วย อยากไฟไหม้ อยากน้ำท่วม ไม่มีเลย แต่ก็มีสิ่งต่างๆ เหล่านี้เกิดขึ้้นตามเหตุที่ได้กระทำแล้ว ถ้าเข้าใจอย่างนี้มั่นคง จะทำดีไหม แม้ทำดีก็เกิดจากปัญญา

    ด้วยเหตุนี้ ความเห็น ความเข้าใจ ความเป็นจริงของธรรม ก็จะนำไปสู่กุศลทั้งปวง ไม่รั้งรอโอกาสด้วย เพราะใครจะรู้ว่า จะจากโลกนี้ไปวันไหน เดี๋ยวนี้ก็ได้ เย็นนี้ก็ได้ แต่เราไม่เคยคิดเลยว่า แล้วไปไหน ทำไมเรามาถึงที่นี่ได้ ถ้าไม่มีกรรมที่ได้ทำแล้ว มาไม่ได้

    เพราะฉะนั้น ที่จะไปต่อไป ก็ตามกรรมหนึ่งในสังสารวัฏ ที่จะทำให้มีการเกิดต่อไป แล้วก็ตายอีก แล้วก็เกิดอีก แล้วก็ตายอีก เพราะฉะนั้น เกิด และตายก็เป็นของธรรมดา แต่ว่า ถ้าไม่มีความเข้าใจที่ถูกต้อง ก็มีแต่ความไม่รู้ มีแต่ความเห็นแก่ตัว และมีแต่การทำสิ่งใดใดก็ได้ เพื่อให้ได้มาซึ่งความสุขส่วนตัว ไม่คิดแม้แต่จะสละเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าเป็นคนที่มีปัญญา เศษกระดาษตก เก็บไหม ใครทำตกก็ไม่เป็นไร ช่วยให้สะอาดขึ้นไหม แค่กระดาษชิ้นเดียวถ้าทุกคนเก็บ แค่นี้ทำไม่ได้หรือ เห็นหรือไม่ ความเห็นแก่ตัวอย่างยิ่ง กับการที่สามารถที่จะรู้ว่า โอกาสที่จะทำความดีหายาก

    เพราะฉะนั้น โอกาสที่จะทำความดีเมื่อไหร่ ถ้าไม่ทำขณะนั้นก็เป็นอกุศล ก็สะสมอกุศลต่อไป เพราะฉะนั้น ผลที่เห็นก็คือว่าชีวิตที่ยากเข็ญของชาวโลกทั้งหมด ซึ่งต้องเป็นไปตามกรรม เพราะไม่รู้ว่าเหตุไรจึงเป็นอย่างนั้น แต่ว่าถ้าเป็นผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจ และเห็นโทษของความไม่รู้ ก็จะเริ่มเข้าใจความจริง และปัญญานั้นก็จะค่อยๆ ละความไม่รู้ จนกระทั่งสามารถที่จะละความเห็นแก่ตัว เพราะรู้ว่าไม่มีตัว

    เพราะฉะนั้น ก่อนอื่น ต้องเข้าใจให้ถูกต้องว่า ความที่ไม่ดีทั้งหมดเป็นอกุศล มาจากความไม่รู้ และการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นเรา แต่ความจริงเราอยู่ได้กี่วัน วันไหนจะไม่ใช่เราอีก แน่นอน แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ เพราะฉะนั้น สิ่งที่ควรทำระหว่างที่มีชีวิตก็คือว่า เข้าใจพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ อันเป็นเหตุที่จะให้มีความประพฤติที่ดี และค่อยๆ ละความเข้าใจว่ามีเราทำให้เกิดความเห็นแก่ตัว ก็จะหมดปัญหา ใช่ไหม ไม่ว่าจะเรื่องตัดต้นไม้ ทำลายป่า หรือว่าทุจริตต่างๆ ในทุกวงการ


    หมายเลข 11812
    26 ส.ค. 2567