“ฐานะ” และ “อฐานะ”
ผู้ฟัง คำว่า “ฐานะ” และ “อฐานะ”
อ.วิชัย สิ่งที่เป็นฐานะที่จะมีได้ หรือไม่ใช่ฐานะที่จะมีได้ ก็ต้องพิจารณา ในที่นี้ก็ทรงแสดงแยกแยะออกเป็นหลายข้อด้วยกัน อย่างเช่นในข้อที่ ๑ มีข้อความว่า
ย่อมรู้ชัดว่า ข้อที่มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส คือ บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ พึงเข้าใจสังขารอะไรๆ โดยความเป็นของไม่เที่ยง นั่นไม่ใช่ฐานะมีได้ และรู้ชัดว่า ข้อที่เป็นฐานะมีได้แล คือ ปุถุชนพึงเข้าใจสังขารอะไรๆ โดยความเป็นของเที่ยงนั้นเป็นฐานะที่มีได้
ก็จะเห็นความต่างกันของผู้ที่ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ คือ อริยบุคคลขึ้นไป เห็นความต่างกันว่า ท่านสามารถรู้แจ้งอริยสัจธรรม เป็นพระอริยบุคคล ก็แสดงว่ามีปัญญาสามารถจะรู้ลักษณะของสภาพธรรมโดยความเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา แต่ปุถุชน ถ้าเข้าใจว่า สังขารเป็นของเที่ยง นี่เป็นสิ่งที่มีได้ และจำแนกออกเป็นหลายๆ ข้อ อย่างเช่นบุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ จะฆ่าบิดามารดา เป็นไปได้ไหมครับ คือ อริยบุคคล เป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าเป็นปุถุชน เป็นไปได้ หรือแม้แต่อนันตริยกรรม ๕ ถ้าเป็นพระอริยบุคคลไม่สามารถกระทำได้ คือ ไม่ว่าจะเป็นการฆ่าบิดามารดา หรือกระทำพระโลหิตให้ห้อ หรือว่าทำสงฆ์ให้แตกแยกกัน หรือฆ่าพระอรหันต์ ผู้ที่ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ ไม่สามารถกระทำได้ หรือมีข้ออื่นอีกว่า พระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าจะอุบัติพร้อมกัน ๒ พระองค์ เป็นฐานะที่มีไม่ได้ หรือพระเจ้าจักรพรรดิจะเกิดพร้อมกัน ๒ พระองค์ ก็เป็นฐานะที่เป็นไม่ได้ หรือสตรีจะเป็นพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ไม่ใช่ฐานะที่เป็นไปได้
นี่ก็เป็นปัญญาที่จะรู้สิ่งที่เป็นฐานะ และไม่ใช่ฐานะ
ที่มา ...