แม้ปฏิสนธิด้วย ๓ เหตุ แต่ก็ต้องไปอบาย
สุรีย์ พูดถึงเรื่อง “สว่างมา มืดไป” ถ้าบุคคลนั้น ปฏิสนธิจิตเป็นติเหตุกะแล้ว เขามีทางที่จะมืดไปหรือคะ
สุ. จะรู้ได้อย่างไรว่า ใครเป็นตุเหตุกะปฏิสนธิ
สุรีย์ แต่ปุถุชนที่เขาเป็นกัลยาณปุถุชน เขาก็ต้องเป็นติเหตุกะด้วย
สุ. มิได้ค่ะ เป็นสุคติบุคคลที่ไม่ประกอบด้วยเหตุใดเลยก็ได้ แต่ถ้าเราได้ยินได้ฟังธรรม แล้วเราคิดให้ตรงเท่าที่เราสามารถจะเข้าใจได้ อันนั้นก็จะตัดปัญหาเรื่องอื่นอีกเยอะมาก เพราะว่าเรื่องที่จะคิดเองมีมากมาย
อรรณพ อย่างท่านพระเทวทัตท่านก็ปฏิสนธิด้วย ๓ เหตุ เป็นติเหตุกบุคคล ได้ฌานด้วย สามารถแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ได้ แต่ตอนหลังก็เสื่อม และไปเกิดในอเวจีมหานรก
สุรีย์ ที่อาจารย์อรรณพพูด ก็ต้องเป็นกรรมเก่าของเขา คือ ส่งผลให้เป็นอย่างนั้น
อรรณพ เพราะกิเลสจึงมีกรรม ส่งผลให้รับวิบาก แม้ปฏิสนธิด้วย ๓ เหตุ แต่ก็ต้องไปอบาย
ที่มา ...
Tag กิเลส กรรม วิบาก
หมายเลข 11827
28 ส.ค. 2567