วิถีชีวิตใหม่
ท่านอาจารย์ ทุกคนก็พยายามหาวิถีชีวิตใหม่ เพื่อจะได้มีความสุขจากความทุกข์ซึ่งมีในแต่ละอย่างไม่ว่าจะทุกข์เพราะอะไรก็ตาม แต่ตราบใดที่ไม่รู้จักว่า วิถีใหม่นั้นใหม่จริงๆ ไม่ใช่อย่างที่เป็นแล้วเป็นเล่า คิดแล้วคิดเล่า แก้ไขแล้วแก้ไขเล่า วิถีใหม่จริงๆ คือ ความเห็นที่ถูกต้องตามความเป็นจริงตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อไหร่ วิถีใหม่ก็คือว่า ไม่ได้มีความตื่นตระหนกกลัวด้วยความเป็นตัวตน แต่สามารถที่จะรู้ตามความเป็นจริงว่าไม่มีเรา ทุกสิ่งทุกอย่างมีปัจจัยเกิดแล้วดับ นั่นคือชีวิตเริ่มที่จะเป็นวิถีใหม่ จากความไม่รู้ในสังสารวัฏมาสู่ความรู้ทุกอย่างที่มีตามความเป็นจริง ไม่มีเรา เดือดร้อนหรือไม่
อ.วิชัย ถ้าเป็นความรู้จริงๆ ไม่เดือดร้อน
ท่านอาจารย์ เพราะไม่มีเรา แต่พอเป็นเราจะไม่เดือดร้อนได้หรือไม่
อ.วิชัย ไม่ได้ เพราะยังคิดว่าเป็นเรา
ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้น หนทางแก้ก็มีโดยสมบูรณ์ โดยเด็ดขาด โดยสิ้นเชิง โดยประการทั้งปวง ไม่เช่นนั้นก็แก้ไม่จบ เพราะไม่รู้จริงๆ ว่าหนทางแก้คือความรู้ที่ถูกต้องตามความเป็นจริง ซึ่งจะไม่มีใครรู้เลยถ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ทรงตรัสรู้ และทรงแสดง
อ.อรรณพ วิถีชีวิตคืออะไร
ท่านอาจารย์ ต้องรู้ว่ามีชีวิตใช่หรือไม่ ถ้าไม่มีชีวิตก็ไม่มีวิถีชีวิต
อ.อรรณพ มีชีวิต
ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้น ต้องมีชีวิต มี หมายความว่าเกิดจึงมี เกิดแล้วไม่มีดับไปเลย ห้ามไม่ให้ดับไปไม่ได้ นี่คือวิถีชีวิตที่จะต้องเป็นไป เพราะฉะนั้น ใครสามารถที่จะไปยับยั้งการเกิดขึ้น และดับไปของสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ แต่ไม่รู้ความจริงว่าแต่ละหนึ่งที่ปรากฏ จริงเฉพาะที่ปรากฏ มีผู้ที่ได้ทรงตรัสรู้ความจริงว่าดับแล้วไม่เหลือเลย ไม่กลับมาอีก เป็นเหตุให้มีสิ่งอื่นต่อไปเกิดขึ้นได้ ไม่รู้จบสิ้น จากการที่สิ่งหนึ่งเกิดแล้วก็ดับไปเป็นปัจจัยให้สิ่งอื่นเกิดขึ้นสืบต่อแล้วก็ดับไป พิสูจน์ได้จากวันนี้ ชีวิตตอนหลับกับชีวิตตอนตื่น อยู่เฉยๆ หรือว่าจะต้องไปทุกขณะ จากขณะตื่น ไปไหน ทุกขณะ ไปอาบน้ำ ไปรับประทานอาหาร ไปนั่นไปนี่ตลอด นั่นคือวิถีชีวิตความเป็นไปของชีวิตซึ่งเมื่อเกิดแล้วต้องดับต้องเป็นไป
เพราะฉะนั้น เมื่อมีชีวิตจะไม่มีวิถีชีวิตไม่ได้วิถีชีวิต คือความเป็นไปของสิ่งที่มีนั่นเอง ยับยั้งไม่ให้มี ไม่เกิดขึ้น ไม่ให้เป็นไป ไม่ได้เลย เพราะฉะนั้น ต้องเป็นไป แล้วแต่ว่าอะไรจะเป็นปัจจัยให้แต่ละชีวิตเป็นไปอย่างไร ก็เป็นวิถีอย่างนั้น
เพราะฉะนั้น ชีวิตวิถีใหม่ คิดดู วิถีใหม่ จะเก่าหรือไม่ เหมือนเดิมหรือไม่ คือเกิดขึ้นก็ต้องดับไป เกิดขึ้นก็ต้องดับไป เกิดขึ้นก็ต้องดับไป เหมือนแสนโกฎิกัลป์ เป็นอย่างนี้ ไม่ใหม่ แต่เข้าใจว่าเปลี่ยนเป็นอีกอย่าง นั่นคือใหม่ แต่ถึงเปลี่ยนอย่างไรก็เหมือนเดิมใช่หรือไม่ ตื่นขึ้นก็ต้องเป็นไป จนกระทั่งหลับไปก็ต้องตื่นขึ้นอีกก็ต้องเป็นไปอีก เหมือนเดิมทุกอย่าง เพราะฉะนั้น จะใหม่ก็ต่อเมื่อมีความรู้ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้น ที่จะเข้าใจว่าขณะนั้นเป็นอะไร วิถีชีวิตใหม่เริ่มเปลี่ยนแปลงไปตามความเข้าใจที่ถูกต้อง ซึ่งถ้าไม่มีความเข้าใจที่ถูกต้องก็เป็นชีวิตเดิมๆ ไม่มีอะไรที่ใหม่เลยแม้เพียงอย่างเดียว แต่พอมีความเข้าใจ ใหม่ไม่เคยเกิดมาเลยในสังสารวัฏ วิถีชีวิตก็ค่อยๆ เป็นไป เป็นวิถีชีวิตใหม่ ซึ่งขณะนั้นเป็นไปด้วยความเข้าใจที่ถูกต้อง เป็นปัญญา
เพราะฉะนั้น วิถีชีวิตของผู้ที่มีปัญญา กับวิถีชีวิตของคนที่ไม่มีปัญญา คนที่ไม่มีปัญญาเหมือนเดิมในสังสารวัฏ แต่วิถีของผู้ที่มีปัญญาเริ่มเข้าใจถูกต้อง เพราะฉะนั้น ค่อยๆ เป็นวิถีชีวิตที่ประกอบด้วยปัญญา ใหม่มาก ใหม่จนกระทั่งสามารถที่จะดับกิเลสได้ ซึ่งไม่เคยสามารถที่จะรู้ตามความเป็นจริงมาก่อน
เพราะฉะนั้น แม้แต่คำว่าวิถีชีวิตใหม่ คนที่เข้าใจถูกก็สามารถที่จะรู้ว่าเปลี่ยนไปอย่างไร เท่าไรๆ ก็เหมือนเดิม เพียงแต่เหมือนไม่เหมือนเดิม แต่ความจริงก็เหมือนเดิม จนกว่าจะมีใหม่จริงๆ คือประกอบด้วยปัญญาที่สามารถเข้าใจถูก ชีวิตเริ่มเปลี่ยนจากความไม่รู้เป็นความรู้ว่าอะไรถูกอะไรผิดเพิ่มขึ้น จนสามารถที่จะดับกิเลส ความกลัวโควิด ความกลัวทุกสิ่งทุกอย่างไปได้