ฟังแล้วพิจารณาไตร่ตรองหรือเปล่า
อ.วิชัย เรียนถามท่านอาจารย์ ฟังบ่อยเรื่องตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ธาตุรู้ สภาพรู้ และสภาพที่ไม่รู้อารมณ์ต่างๆ เหล่านี้ ถ้าพิจารณาถึงบุคคลที่สะสมปัญญามาแล้ว ก็เป็นสิ่งที่สามารถเข้าใจอย่างรวดเร็วถึงแม้ได้ยินได้ฟังเรื่องราวต่างๆ ก็สามารถรู้ตามความเป็นจริงในสภาพที่ปรากฏได้อย่างรวดเร็ว แต่ผมเองฟัง แล้วดูเหมือนเป็นสิ่งที่รู้แล้ว และไม่ได้พิจารณาในสิ่งที่ได้ยินได้ฟังเรื่องตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจอย่างละเอียด คือเข้าใจว่า บุคคลที่มีปัญญาต้องมีความคิดที่ละเอียด แม้ได้ยินได้ฟังคำๆ เดียว สามารถรู้ละเอียดถึงลักษณะของสภาพธรรม แต่ขณะนี้ฟังแล้ว รู้สึกว่า เป็นสิ่งที่ได้ยินได้ฟังแล้ว ไม่ได้คิดพิจารณาอะไร
สุ. ค่ะ ฟังแล้วรู้เรื่อง อันนี้แน่นอน เพราะเหตุว่าพูดเรื่องตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ และก็พูดแต่เรื่องนี้แหละ แล้วก็พูดแต่เรื่องสิ่งที่ปรากฏทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ พูดเรื่องอื่นไม่ได้หรอกค่ะ เพราะว่าไม่มีที่จะพูดถึง นอกจากสิ่งที่มีจริงๆ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ แต่คนนั้นทราบว่า กำลังเข้าใจเรื่องราวของสิ่งที่มีจริง เพราะฉะนั้นการฟังต้องฟังไปโดยตลอด ให้ทราบว่า แม้จะได้ยินได้ฟังเรื่องสิ่งที่ปรากฏทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ถ้าเป็นผู้ตรง ไม่ได้ประจักษ์ตรงตามที่ได้ยินได้ฟัง เช่น สภาพธรรมกำลังเกิดดับในขณะนี้ แล้วไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล
เพราะฉะนั้นความละเอียดก็คือว่า เมื่อกล่าวถึงสิ่งที่ปรากฏทางตา ต้องเป็นสิ่งที่เพียงปรากฏทางตาได้เท่านั้น นี่คือความละเอียด และกำลังเข้าใจลักษณะที่เพียงปรากฏทางตาที่ปรากฏทางนี้เท่านั้นหรือเปล่า ถ้าจะเข้าใจได้ หนทางที่จะทำให้สามารถเข้าถึงการไม่ติดในนิมิต อนุพยัญชนะ ในสิ่งที่ปรากฏทางตา เพราะอะไร ต้องมีเหตุทั้งหมดเลย แล้วสิ่งที่ปรากฏทางตาขณะนี้ ถ้ามีความเข้าใจถึงขั้นที่ประจักษ์แจ้ง จากไม่มี แล้วมี นี่แน่นอน อย่างเสียงนี่ ไม่มี ขณะนั้นไม่มี แล้วเสียงปรากฏ เพราะฉะนั้นปัญญาก็สามารถจะรู้ถึงขณะซึ่งไม่มีสิ่งใดปรากฏ เพราะเหตุว่าถ้ามีสิ่งใดปรากฏ จะไม่รู้ถึงขณะที่ไม่มีสิ่งใดปรากฏ เพราะฉะนั้นในขณะนั้นปัญญายังไม่สามารถรู้ถึงขณะที่ยังไม่มีสิ่งใดปรากฏ แล้วเสียงปรากฏ เพราะฉะนั้นบุคคลนั้นก็สามารถเห็นความเป็นธาตุ ซึ่งไม่มีอย่างอื่นเลย เพราะขณะนั้นไม่มีอะไร แม้แต่เสียงก็ยังไม่ได้ปรากฏ และเมื่อเสียงปรากฏก็จะรู้ตามความเป็นจริงว่า เกิด แล้วก็ต่างกับลักษณะของสภาพธรรมอื่น
เพราะฉะนั้นสิ่งที่ได้ยินได้ฟังที่สะสมมาแต่ละชาติ เป็นเรื่องเป็นราวต่างๆ เช่น เป็นเรื่องธาตุ เป็นเรื่องขันธ์ เป็นเรื่องอายตนะ ตลอดต่อไปจนกระทั่งถึงปัจจัยหรือ ปฏิจจสมุปปาท ทั้งหมดก็จะเป็นเพราะกำลังเข้าใจลักษณะจริงๆ ด้วยปัญญาที่ได้อบรมจนสามารถประจักษ์แจ้งความจริงได้ เพราะว่าความจริงขณะนี้ต้องมีขณะที่เสียงไม่ได้ปรากฏแน่นอนก่อนเสียงปรากฏ
ที่มา ...