คำที่ให้คิดไตร่ตรอง
เคารพสิ่งที่ไม่รู้จักจนกว่าจะได้ฟังพระธรรม
การฟังธรรมก็เป็นเรื่องที่ว่า ฟังเพื่อรู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เคารพบูชาสูงสุด หาบุคคลใดเปรียบไม่ได้ พูดได้ แต่พระคุณนั้นรู้หรือยัง
เพราะฉะนั้นทุกคน คุ้นเคยกับการที่เกิดมา เข้าใจว่าตัวเองนับถือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่โดยวิธีที่ว่ากราบไหว้บูชาสวดมนต์ สร้างวัด แต่นั่นคือการรู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ได้เคารพสูงสุดหรือเปล่า เพราะฉะนั้นก็เหมือนกับการที่เคารพสิ่งที่ไม่รู้จักเลย กราบไหว้สิ่งที่ไม่รู้จักเลยจนกว่าจะได้ฟังพระธรรม
เพราะฉะนั้นทุกคำที่ได้ฟัง เป็นคำที่ให้คิดไตร่ตรอง จริงหรือเปล่า ถูกหรือผิด เป็นแต่ละคน เพราะแม้แต่ข้อความในพระไตรปิฎกก็มีว่าสอบสวนอะไร ๓ อย่าง หนึ่งคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เราได้ยินได้ฟังทั้งหมด หรือที่เราใช้คำว่าพระพุทธศาสนา สอบสวนอรรถความหมายของคำนั้นที่เป็นความหมายของผู้ที่ตรัสคำนั้นให้ได้เข้าใจถูกต้อง ว่าจริงๆ แล้ว อรรถ ความหมายนั้นหมายถึงอะไร อย่างไร นี่ไม่เคยมีมาเลย ถ้าไม่ศึกษาธรรม ไม่เคยฟัง ไม่เคยคิด ไม่เคยไตร่ตรอง ไม่เคยรู้จัก แต่ว่าถ้าได้ศึกษาพระธรรมแล้วละเอียดอย่างยิ่ง
เพราะฉะนั้นแต่ละคำที่ได้ยินได้ฟังอยู่ในพระไตรปิฏก สอบสวนอรรถเห็นไหม ไม่ใช่ฟังแล้วทิ้งไป ตามไปเลย พระพุทธเจ้าตรัสรู้อย่างนี้วันเพ็ญเดือน ๖ ถึงวันนั้นก็มากราบไหว้บูชา อย่างนั้นก็กราบไหว้บูชา แต่ไม่รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะไม่ได้สอบสวนธรรมของพระองค์ซึ่งเป็นการสอบสวนสังขารธรรมที่มีเดี๋ยวนี้ ซึ่งกำลังเป็นอย่างนี้ เกิดขึ้นปรากฏโดยการปรุงแต่ง ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร และก็สอบสวนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อเข้าใจว่าคำนี้แหละ เป็นคำที่พระองค์ได้ตรัสด้วยพระองค์เอง ไม่ใช่คำอื่นซึ่งคนอื่นกล่าวแล้วก็อ้างว่าเป็นคำของพระองค์
เพราะฉะนั้นธรรมเป็นเรื่องประโยชน์สูงสุดละเอียดอย่างยิ่ง ต้องเคารพต่อความจริงที่ว่า เมื่อเคารพพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเหนือสิ่งอื่นใด แต่ต้องรู้จักพระองค์ ว่าพระองค์ทรงแสดงธรรมอะไร ที่ทรงเป็นศาสดาที่เหนือศาสดาในสากลจักรวาล