ลักษณะของจิต


    ผู้ฟัง หนูฟังจิตปรมัตถ์แล้วสะดุดตรงนี้ ที่ท่านอาจารย์บอกว่าจิตไม่ได้สั่ง คืออย่างไรคะ

    สุ. จิตจะกลายเป็นสภาพไม่รู้ได้ไหม

    ผู้ฟัง ไม่ได้ค่ะ

    สุ. แล้วจิตจะเป็นเจตสิกได้ไหม

    ผู้ฟัง ไม่ได้ค่ะ

    สุ. ไม่ว่าจะเป็นจิตประเภทใดก็ตาม เป็นใหญ่ เป็นประธานในการรู้แจ้งลักษณะของสิ่งที่ปรากฏ

    ผู้ฟัง ก็คือจิตรู้แจ้งในอารมณ์นั้นๆ

    สุ. ตัวจิตแท้ๆ จิตอย่างเดียว ไม่กล่าวถึงเจตสิกที่เกิดร่วมด้วย เพราะว่าทุกครั้งที่จิตเกิดต้องมีเจตสิกเกิดร่วมด้วยแน่นอน แล้วเจตสิกแต่ละเจตสิกก็มีลักษณะอย่างเจตสิกนั้นๆ ซึ่งไม่ใช่ลักษณะของจิต เพราะฉะนั้นถ้ากล่าวถึงลักษณะของจิตโดยเฉพาะ ล้วนๆ ไม่ปนกับเจตสิกเลย จิตเป็นสภาพที่รู้แจ้งลักษณะของสิ่งที่ปรากฏ จิตเป็นสภาพโกรธ หรือเปล่าคะ โกรธเป็นจิต หรือเปล่า

    ผู้ฟัง โกรธเป็นเจตสิกค่ะ

    สุ. ค่ะ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจิตประเภทไหนทั้งสิ้น ถ้ากล่าวถึงสภาวะของจิตล้วนๆ จิตเป็นสภาพที่เป็นใหญ่ เป็นประธานในการรู้แจ้งอารมณ์ที่ปรากฏ

    ผู้ฟัง รู้แจ้งในลักษณะอาการ

    สุ. ในสิ่งที่ปรากฏ เพราะว่าจิตเป็นสภาพที่รู้อารมณ์ และเป็นสภาพที่เป็นใหญ่ เป็นประธานในการรู้แจ้ง เพราะฉะนั้นในขณะนี้แม้ว่าเรายังไม่ประจักษ์ลักษณะของจิต แต่จิตมี ขณะนี้ที่มีเห็น ลักษณะของสิ่งที่ปรากฏ ปรากฏอย่างไร ก็คือจิตเห็นแจ้งในลักษณะนั้นตามที่ปรากฏ เราอาจจะเห็นหลายสิ่งหลายอย่างที่ต่างกัน แต่ละอย่างถ้าจิตไม่เห็นลักษณะนั้นเป็นใหญ่ เป็นประธานในการรู้แจ้งเฉพาะลักษณะของสิ่งที่ปรากฏ เราก็ไม่สามารถจะรู้ได้ว่า สิ่งที่ปรากฏต่างๆ กันอย่างไร

    ผู้ฟัง ก็คือเห็นในสิ่งที่ดี หรือไม่ดีก็ได้

    สุ. ไม่ใช่ค่ะ นั่นลักษณะของสภาพธรรมอื่นอีก ด้วยเหตุนี้เจตสิกจึงไม่ใช่จิต และจิตก็ไม่ใช่เจตสิก ถ้ากล่าวเฉพาะจิต แม้ว่าจิตจะต้องมีเจตสิกเกิดร่วมด้วยทุกครั้ง และต้องมีเจตสิกหลายประเภทเกิดร่วมกับจิต แต่ละ ๑ ประเภทของเจตสิกก็มีหน้าที่ มีลักษณะของเจตสิกนั้นๆ ไม่ปะปนกัน ฉันใด เฉพาะจิต ไม่ว่าจะเกิดเมื่อไร กล่าวเฉพาะจิต เป็นสภาพนามธรรมที่เกิดขึ้นรู้สิ่งที่กำลังปรากฏ และเป็นใหญ่เป็นประธานในอะไร ในการรู้แจ้งลักษณะของสิ่งที่ปรากฏ สิ่งที่ปรากฏคืออารมณ์ เพราะฉะนั้นเมื่อมีจิตซึ่งเป็นสภาพรู้ ก็ต้องมีอารมณ์ คือ สิ่งที่จิตกำลังรู้ด้วย จิตไม่ได้ไปจำ จิตไม่ได้ไปโกรธ ลักษณะจริงๆ ก็คือเป็นใหญ่ เป็นประธานในการรู้แจ้ง ทำหน้าที่นี้ตลอด รู้แจ้งลักษณะของอารมณ์ที่ปรากฏ

    นี่เป็นลักษณะของจิต ถ้าจะประจักษ์ลักษณะของจิต ก็คือธาตุรู้ซึ่งกำลังรู้ เป็นใหญ่ เป็นประธานในการรู้สิ่งที่ปรากฏ

    ในขณะนี้พอจะบอกได้ ใช่ไหมคะ เห็นเป็นจิต ทำไมไม่พูดถึงเจตสิกที่เกิดร่วมกับจิตเห็น เพราะว่าสภาพสิ่งที่ปรากฏ ปรากฏกับจิตที่กำลังรู้แจ้งลักษณะของสิ่งที่ปรากฏ แต่ลักษณะของเจตสิกซึ่งเกิดพร้อมจิตในขณะนั้นไม่ได้ปรากฏ ไม่ใช่สภาพที่เป็นใหญ่ เป็นประธานในการรู้แจ้งลักษณะของสิ่งที่ปรากฏ

    เพราะฉะนั้นพอกล่าวถึงสิ่งที่ปรากฏในขณะนี้ ปรากฏกับจิตที่กำลังรู้แจ้งในลักษณะนั้น ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ปรากฏทางตา หรือเสียง กลิ่น รส อารมณ์ใดๆ ก็ตาม จิตเป็นใหญ่ เป็นประธานในการรู้แจ้งลักษณะของอารมณ์นั้น

    ผู้ฟัง สมมติจิตรู้แจ้งเสียง ก็คือลักษณะของเสียงต่างๆ

    สุ. ค่ะ ที่เรากล่าวว่า เสียงต่ำ เสียงสูง เพราะจิตรู้แจ้งในลักษณะเสียงนั้นๆ นั่นเป็นหน้าที่ของจิต เป็นลักษณะของจิต จึงแยกจิต และเจตสิก


    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 276


    หมายเลข 12102
    26 ส.ค. 2567