ความติดข้อง ขณะพอใจ โลภะก็เกิดแล้ว


    ผู้ฟัง ใช่ไหมที่ว่าโลภะต้องการทุกอย่าง และยังไม่เคยได้ยินว่า แม้ผัสสะ ก็เป็นสิ่งที่ต้องการ และเป็นอารมณ์ด้วย ตรงนี้เป็นสิ่งที่ละเอียดจริงๆ

    อ.อรรณพ ที่จริงแล้วไม่ใช่ปัญญาจะรู้ความเป็นจิต เป็นชาติอกุศล กุศล วิบาก กิริยา หรือรู้เจตสิกชนิดโน้นชนิดนี้ได้ทันที แต่การศึกษาก็จะช่วยให้เรามีความเข้าใจพื้นฐาน ความเข้าใจความจริงของสภาพธรรม ทีนี้กล่าวถึงโลภะ โลภะเป็นสภาพที่ติดข้อง ในขณะที่โลภะเกิด ก็มีผัสสะกระทบกับอารมณ์นั้น ชักนำมาซึ่งการรู้อารมณ์ ทำให้โลภะสามารถรู้อารมณ์ที่ผัสสะกระทบ และชักนำมา โลภะก็ติด สัญญาเจตสิกก็จำ จำในสภาพที่เป็นอารมณ์ที่ผัสสะกระทบ และชักนำมาให้สัญญาจำ ให้โลภะติด เพราะฉะนั้นโลภะที่มีสัญญาเกิดด้วยจากการที่มีผัสสะกระทบ และชักนำมาก็ติด ความจำก็จำว่าอย่างนี้ดี สีอย่างนี้สวย เสียงอย่างนี้เพราะ

    ผู้ฟัง จากที่ฟังจากคำบรรยายตรงนี้แล้ว ก็รู้สึกว่า เป็นเหตุปัจจัยทั้งนั้นเลย ทีนี้ยังฟังน้อย ก็เลยทำให้เข้าใจจริงๆ ไม่ได้เลยว่า ทุกอย่างเกิดเพราะเหตุปัจจัย

    สุ. ฟังแล้วเหมือนเป็นชื่อกับเรื่องราว แต่ก็เป็นชีวิตประจำวัน เวลานี้คุณบุษบงรำไพอยากจะได้อะไรบ้างคะ

    ผู้ฟัง อยากเข้าใจธรรมค่ะ

    สุ. ไม่ได้อยากเห็น ไม่อยากได้ยินอะไรบ้าง หรือคะ ชอบรับประทานอาหารอะไร กลางวันนี้อยากจะรับประทานอาหารนั้น หรือเปล่า

    ผู้ฟัง ก็คงอยาก แต่ไม่ได้นึกถึง

    สุ. ลองบอกสักอย่างได้ไหมว่า ขณะนี้อยากได้อะไร

    ผู้ฟัง อยากได้เสื้อตัวใหม่ค่ะ

    สุ. อยากได้เสื้อตัวใหม่ ถ้าเพียงแค่คิดว่าอยากได้ พอใจแล้ว ก็ไม่ต้องไปหา ถูกต้องไหมคะ แต่แม้ว่าจะชอบสิ่งที่อยากจะได้ในขณะนั้นก็ยังไม่พอ เพราะยังไม่ได้มีผัสสะในสิ่งที่ต้องการในขณะนั้น เพราะฉะนั้นขณะที่เรานึกชอบอะไรก็ตามแต่ ใจชอบแล้ว ก็ยังไม่พอ ยังต้องการกระทบกับอารมณ์นั้น ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ คนที่ไปแสวงหาดอกไม้สวยๆ เพราะว่าชอบอยากจะได้ ก็ไปหาตามตลาด จนกว่าผัสสะจะกระทบกับสิ่งที่พอใจ เพราะฉะนั้นเพียงชอบ ไม่พอ ยังต้องมีการกระทบ คือ สามารถให้เห็น หรือให้ได้ยิน ให้ได้กลิ่น ให้ลิ้มรส ให้รู้สิ่งที่กระทบสัมผัสจริงๆ ไม่ใช่แต่เพียงชอบเท่านั้นเอง ยังต้องการกระทบ และรู้อารมณ์นั้น หรือให้อารมณ์นั้นปรากฏจริงๆ ด้วย

    เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่ได้ฟังธรรมโดยละเอียด ชีวิตประจำวันของเราก็ผิวเผินมาก เพราะเหตุว่าทุกอย่างเกิดขึ้น และดับไปเร็ว แม้แต่ชั่วขณะนี้ที่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดปรากฏก็ไม่ได้คิดถึงผัสสะ มีแต่ความต้องการ มีแต่ความอยากได้ แต่ถ้าลองพิจารณาจริงๆ ว่า ก็ขณะนั้นพอใจแล้วไง โลภะก็เกิดแล้ว ก็ยังไม่พอ ยังต้องถึงผัสสะกระทบปรากฏทางทวารหนึ่งทวารใดจริงๆ

    เพราะฉะนั้นก็ไม่พ้นจากความติดข้องในสภาพธรรมทั้งหมด เว้นโลกุตตรธรรม


    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 277


    หมายเลข 12103
    31 ส.ค. 2567