ฉันทะ-โลภะ 2
ผู้ฟัง แล้วมีฉันทะ โดยไม่มีโลภะเกิด มีไหมครับ
สุ. ค่ะ ก็เป็นฉันทะในกุศล คุณนนท์ชอบทำกุศลประเภทไหนคะ ให้ทานเด็กกำพร้า อาหารโรงเรียน ฟังธรรม หรือช่วยเหลือคน ขณะนั้นเป็นกุศลที่มีฉันทะเกิดร่วมด้วยตามการสะสม กุศลไม่ใช่อกุศล คนละขณะ ขณะใดเป็นกุศล ขณะนั้นไม่ใช่อกุศล
ผู้ฟัง ถ้าทำบุญประเภทนั้นตลอด จะเป็นโลภะ หรือว่าเป็นฉันทะ
สุ. กุศลเกิดไม่ดับไม่ได้ สภาพธรรมเกิดแล้วก็ดับไป แล้วตราบใดที่ยังมีโลภะอยู่ ก็มีปัจจัยให้โลภะเกิดต่อได้ทันทีด้วย
ผู้ฟัง และโลภะจะดับได้ไหมครับ
สุ. ทั้งหมดเกิดดับค่ะ ไม่มีสภาพธรรมใดที่เกิดแล้วไม่ดับ
ผู้ฟัง หมายความว่าไม่เกิดขึ้นอีก
สุ. ถ้ายังคงมีปัจจัยให้โลภะเกิด โลภะต้องเกิด ยังไม่ได้ดับปัจจัยที่ทำให้โลภะเกิด
ผู้ฟัง ต้องเป็นนิมิตเรื่องเดิมไหมคะ
สุ. แล้วแต่ค่ะ ไม่คาดหมาย ไม่เดา ไม่มีใครรู้ว่า อะไรจะเกิดขึ้นข้างหน้า
ผู้ฟัง แล้วอะไรจะชนะโลภะได้ครับ
สุ. ปัญญาค่ะ
ผู้ฟัง ปัญญาอย่างไรถึงจะไปชนะได้
สุ. ปัญญาที่รู้ความจริง รู้ว่าไม่ใช่ตัวตน เป็นธรรมทั้งหมด พอใจก็เป็นธรรม ไม่พอใจก็เป็นธรรม ทุกอย่างเป็นธรรม
ผู้ฟัง ฉันทะกับโลภะ โลภะ เป็นความติดข้อง แต่ฉันทะ พอใจที่จะทำ สมมติว่าอยากได้เสื้อ นี่คือติดข้องใช่ไหมคะ แล้วเราพอใจไปหาซื้อตามที่อยากได้ อันนี้เป็นฉันทะ
สุ. ก็ทั้ง ๒ อย่าง ฉันทะเกิดร่วมกับโลภะด้วย
ผู้ฟัง ทุกครั้งที่มีโลภะ ต้องมีฉันทะเจตสิกเกิดร่วมด้วย
สุ. ค่ะ ถูกต้องค่ะ
ผู้ฟัง ตอนที่เกิดความพอใจ บางครั้งก็ยึดติดก็ไม่รู้ตัว ทำไมบอกว่าไม่มีโมหะที่เกิดความหลง
สุ. อันนี้ต้องฟังละเอียด ต้องรู้ว่า จิตมีกี่ประเภทที่เป็นอกุศล เป็นโลภมูลจิต โทสมูลจิต โมหมูลจิต ฉันทะเกิดร่วมกับโลภะได้ เกิดร่วมกับโทสะได้ และขณะที่โลภะ โทสะเกิด ก็มีโมหะเกิดร่วมด้วย แต่จิตที่ไม่มีโลภะเกิดร่วมด้วย ไม่มีโทสะเกิดร่วมด้วย มีแต่โมหะ ขณะนั้นจะไม่มีฉันทเจตสิกเกิดร่วมด้วย อันนี้ก็เป็นเรื่องละเอียด เป็นชีวิตประจำวัน ถ้าเราเข้าใจ ก็จะเห็นว่า ไม่ใช่เราทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นขณะไหน
ที่มา ...