รูปที่เกิดจากกรรม
บง ยังไม่เข้าใจรูปที่เกิดจากกรรมค่ะ ถ้าเราเกิดมาตาบอด ก็หมายความว่า การที่เราตาบอด ก็เพราะมีรูปที่เกิดจากกรรม ทำให้ตาบอด หรือเปล่าคะ
สุ. กรรมไม่ได้ทำให้ตา หรือจักขุปสาทเกิดค่ะ ถ้าคนหูหนวก กรรมก็อาจทำให้ปสาทอื่นเกิด แต่ไม่ทำให้โสตปสาทรูปเกิด จะเกิด หรือไม่เกิด แล้วแต่กรรม
บง ถ้ากำเนิดขึ้นมาเลย ตาบอด
สุ. มีกรรมเป็นเครื่องกำหนดว่า จะมีตาเกิดขึ้น หรือเปล่า จะมีหูเกิดขึ้น หรือเปล่า เมื่อถึงกาลที่สมควร เพราะว่าทันทีที่เกิดยังไม่มีตาเกิด ยังไม่มีหูเกิด หลังจากนั้นไปอีก สัปดาห์ต่อๆ ไป ก็จะมีจักขุปสาท โสตปสาทเกิด เป็นต้น
บง แล้วชีวิตินทรีย์ทำให้ต่อมาตาบอด หรือคะ
สุ. ไม่ใช่ค่ะ หมายความว่าเวลาที่กรรมเป็นปัจจัยให้รูปเกิดขึ้น ก็จะมีรูปที่แยกกันไม่ได้ ๘ รูป คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม ๔ เป็นใหญ่ เป็นประธาน เป็นมหาภูตรูป และเมื่อมีมหาภูตรูปที่ไหน ต้องมีสี มีกลิ่น มีรส มีโอชา เกิดร่วมด้วยอีก ๔ รูป เพราะฉะนั้น ๘ รูป ไม่แยกจากกันเลย ไม่ว่าจะเป็นรูปที่เกิดจากจิต เกิดจากอุตุ เกิดจากอาหาร ที่จะมีน้อยกว่า ๘ รูปไม่ได้ แต่สำหรับรูปที่เกิดจากกรรม จะต้องมีชีวิตินทรียรูปอีกรูปหนึ่งในทุกๆ กลุ่ม หรือกลาป ซึ่งเกิดจากกรรม ทำให้เป็นรูปซึ่งต่างกับรูปอื่น เพราะเป็นรูปที่ทรงชีวิต หรือมีชีวิต ต่างกับรูปอื่น เช่น ต้นไม้ใบหญ้าเกิดจากอุตุ ไม่ได้เกิดจากกรรม เพราะฉะนั้นความปรากฏ ก็ไม่มีชีวิต เพราะไม่มีชีวิตินทรียรูป ที่ทำให้รูปนั้นดำรงสภาพความเป็นรูปที่มีชีวิต และถ้ามีจักขุปสาท นอกจากจะมีธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม สี กลิ่น รส โอชา ยังต้องมีจักขุปสาทรูปรวมอยู่ในกลุ่มนั้น หรือกลาปนั้นอีก ๑ รูป รวมเรียกว่า จักขุทสกกลาป หมายถึงกลุ่มของรูปที่เกิดจากกรรม ซึ่งมีจักขุปสาทเกิดร่วมด้วย และในกลุ่มของโสตปสาทก็โดยนัยเดียวกัน แต่ไม่ใช่จักขุปสาท เพราะเป็นโสตปสาท เป็นรูปที่เกิดดับอย่างเร็วมาก แต่ก็มีสมุฏฐานที่ทำให้เกิด และจะเกิดตราบเท่าที่มีสมุฏฐาน
เพราะฉะนั้นถ้ากล่าวถึงอินทรีย์ ๕ ที่เป็นศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา แต่ไม่รู้ ไม่เข้าใจนามธรรม และรูปธรรม ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะว่าปัญญาจะไปรู้อะไรได้ ก็ต้องมีความเข้าใจธรรมที่มี เป็นการอบรมเจริญอินทรีย์ ๕ นั่นเอง
ที่มา ...