ทำไมรูปต้องกระทบกับอตีตภวังค์
ผู้ฟัง เมื่ออารมณ์มากระทบกับปสาท แล้วเป็นปัจจัยให้ภวังคจลนะไหว ดิฉันสงสัยว่า แล้วอตีตภวังค์ไปไหน และอตีตภวังค์มีหน้าที่อะไรบ้างคะ
สุ. ที่จริงเวลาใช้คำว่า “อตีตภวังค์ ภวังคจลนะ ภวังคุปัจเฉทะ” หมายความถึงขณะที่อารมณ์ และปสาทเกิด และกระทบ เพื่อแสดงอายุของรูปว่ามีอายุเท่ากับจิตเกิดดับ ๑๗ ขณะ แต่ทางมโนทวารไม่มีคำว่า อตีตภวังค์ ไม่จำเป็นต้องไปใช้คำนี้ เพราะอารมณ์ไม่ได้มากระทบ และไม่ได้แสดงถึงอายุของรูป
คุณอุไรวรรณ มีคำถามอยู่ ๒ คำถาม
๑. คนที่สายตาไม่ชัดเจน การมองเห็นจะครบวาระ ๑๗ ขณะหรือไม่
สุ. เห็นอะไรคะ
คุณอุไรวรรณ เห็นสิ่งที่ปรากฏทางตา
สุ. สิ่งที่ปรากฏทางตาอายุเท่าไร ไปตัดทอนอายุของสิ่งที่ปรากฏทางตาได้ไหม
คุณอุไรวรรณ ผู้ถามคงจะตอบได้เองว่า การมองเห็นจะครบวาระ ๑๗ ขณะหรือไม่
มีคำถามข้อ ๒ ถามว่า ทำไมเมื่อกระทบกับอตีตภวังค์ ๓ ขณะแรกจึงนาน ไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องกระทบกับอตีตภวังค์ ๓ ขณะแรก
สุ. คุณธีรพันธ์จะตอบไหมคะ
อ.ธีรพันธ์ เพราะว่าถ้ามีอตีตภวังค์แล้ว หมายความว่ามีรูปมากระทบทางปัญจทวาร ทวารใดทวารหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นทางตา หู จมูก ลิ้น กาย จึงมีอตีตภวังค์ เพราะว่าก่อนที่อตีตภวังค์จะเกิดขึ้น ก็หมายความว่า กระแสของภวังค์เกิดดับสืบต่อกัน และมีรูปมากระทบ ขณะแรกที่รูปมากระทบ เป็นปัจจัยให้วิถีจิตเกิด ถ้ารูปไม่กระทบก่อน อายุของรูปเกิดดับสืบต่อ ดับไปก่อน ก็ไม่เป็นปัจจัยให้วิถีจิตเกิดขึ้น ที่เรียกว่าเป็น “โมฆวาระ” เท่านั้นเอง
ที่มา ...