โคจรรูป วิสยรูป มี ๗ รูป เป็นอารมณ์ของจิต


    คุณอุไรวรรณ มีคำถามจากท่านผู้ฟังฝากถามคุณอรรณพว่า ท่านผู้ฟังเข้าใจว่า โคจรรูป ก็คือขณะที่รูปเกิดขึ้นทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และเกิดขึ้น ดับไปตลอดเวลา เรารวมเรียกรูปพวกนี้ว่า โคจรรูป นี้คือเป็นความเข้าใจของเขา ส่วนวิสยรูป ก็คือรูปที่เป็นอารมณ์ จะเกิดขึ้นขณะที่เป็นอารมณ์ จะเริ่มรู้ว่า รูปเกิดขึ้นทีละ ๑ ขณะ โดยไม่ได้เที่ยวไป หรือรวมๆ กันเหมือนในขณะนี้ แต่ถ้าเป็นอารมณ์จะรู้เพียง ๑ อย่างที่กำลังปรากฏโดยไม่รวมกัน เข้าใจถูก หรือไม่

    อ.อรรณพ เมื่อศึกษาธรรมะ เราจะได้ยินข้อความ หรือได้ยินส่วนของข้อความ หรือคำหลากหลาย เรารู้ว่า รูป ก็เป็นสภาพธรรมที่เกิดแล้วดับ ได้ยินคำว่า การเกิดดับของรูป ความไม่เที่ยง และอีกมากมาย ทีนี้ โคจรรูป ก็คือรูปที่เป็นที่เที่ยวไปของจิต นี่คือที่ท่านแปล ก็หมายความว่า จิตเมื่อเกิดขึ้นแล้ว ต้องมีสิ่งที่จิตรู้ คือ อารมณ์ รูปที่เป็นอารมณ์ของจิตอยู่เสมอ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และรวมถึงการสืบต่อเป็นอารมณ์ถึงใจด้วย ก็มีอยู่ ๗ รูป ก็คือ สี เสียง กลิ่น รส เย็น ร้อน อ่อน แข็ง ตึง และไหว

    ขอให้พี่เข็มช่วยทวนข้อความแรก จำได้ว่า ท่านผู้ถามเข้าใจว่า โคจรรูป ก็คือการเกิดขึ้นของรูป ใช่ไหม

    ผู้ฟัง รูปขณะที่เกิดขึ้นทางตา หู จมูก ลิ้น กาย เกิดขึ้นแล้วก็ดับไปอยู่ตลอดเวลา รวมๆ กันเรียกรูปพวกนี้ว่า โคจรรูป

    อ.อรรณพ ถ้าเป็นอย่างนั้น รูปทุกรูปต้องเป็นโคจรรูปหมด เพราะรูปทุกรูปก็มีการเกิดขึ้นแล้วดับไป ส่วนจะเป็นอารมณ์ของจิตของท่านใด ทางไหนนั้น ก็แล้วแต่รูป แล้วแต่ลักษณะความละเอียด ความหยาบของรูปนั้น แล้วแต่การที่ปัญญาของแต่ละท่านจะรู้ เพราะฉะนั้น การเกิดของรูป นั่นคือลักษณะขณะที่รูปนั้นเกิดขึ้น เป็นลักษณะของรูป หรือลักขณรูปในขณะที่เกิดขึ้น นั่นคือ อุปจยรูป ที่ท่านแสดงไว้สำหรับลักขณรูป หรือลักษณะของรูป คือ รูปที่มีลักษณะสภาวะจริงๆ ก็มีสภาพที่ก่อตัวขึ้น นั่นเป็นอุปจยรูป สันตติรูป ชรตารูป และขณะที่ดับไป เป็นอนิจจตารูป เพราะฉะนั้นขณะที่รูปเกิดขึ้น ท่านก็แสดงลักขณรูป ๔ อยู่แล้ว แต่โคจรรูป ก็คือรูปที่เป็นที่เที่ยวไปของจิต หรือเป็น วิสยรูป คือ เป็นอารมณ์อยู่เสมอทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ เพราะฉะนั้นบางทีเรานำมาปนกัน คือ รูปทั้งหมดเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป ถ้าเราใช้ข้อความว่า การเกิดขึ้นของรูป และดับไปของรูป เป็นโคจรรูป แบบนี้ก็จะไม่ชัดเจน

    ผู้ฟัง ขออนุญาตท่านอาจารย์ ในขณะที่เป็นอารมณ์ ก็จะรู้ได้ทีละหนึ่งขณะ ส่วนโคจรรูป ก็คือรูปที่ท่องเที่ยวหมุนเวียนไปทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ นั่นคือการศึกษาเริ่มต้น พื้นฐานต้องเข้าใจอย่างนี้ถูกต้อง หรือไม่

    ท่านอาจารย์ ธรรมเป็นเรื่องที่ค่อยๆ เข้าใจให้ถูกต้อง อย่างรูปที่เกิดทางตา ถูก หรือผิด

    ผู้ฟัง ถ้าอย่างนี้ผิด

    ท่านอาจารย์ มีไหมรูปที่เกิดขึ้นทางตา

    ผู้ฟัง ไม่มี

    ท่านอาจารย์ รูปเกิด ปรากฏ หรือไม่ปรากฏ รูปไม่รู้เลย มีสมุฏฐานให้รูปเกิด รูปก็เกิด แต่ว่ารูปใดที่เกิดแล้วกระทบกับจักขุปสาท รูปนั้นไม่ได้เกิดทางตา แต่ว่ารูปนั้นเกิดแล้วกระทบกับจักขุปสาท แล้วเมื่อกระทบแล้วโดยกรรมเป็นปัจจัยให้จักขุวิญญาณเกิดขึ้นเห็นสิ่งที่กระทบ ทั้งหมดเป็นอายตนะมีอยู่ที่นั่น เพราะฉะนั้น ขณะใดก็ตามที่จิตกำลังรู้รูป เพราะว่าในภูมิที่มีขันธ์ ๕ ก็จะมีรูป คือ สี เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ซึ่งสามารถกระทบกับแต่ละทวาร หรือปสาทรูป เช่น สิ่งที่ปรากฏทางตาจะเกิดเพราะกรรม จะเกิดเพราะจิต จะเกิดเพราะอุตุ จะเกิดเพราะอาหาร มีสมุฏฐานให้เกิดเมื่อไรต้องเกิด เพราะว่าเลือกไม่ได้ มีสมุฏฐานแล้วก็เกิด แล้วแต่ว่าจะกระทบ หรือไม่กระทบกับปสาทรูป

    เพราะฉะนั้น รูปทางตาที่ขณะนี้ปรากฏ หมายความว่ารูปนั้นเกิดแล้ว แล้วก็กระทบกับจักขุปสาท แล้วจิตเห็นก็เกิดขึ้นเห็น ขณะนั้นจิตเห็นรูปที่สามารถจะเห็นได้รูปเดียวใน ๒๘ รูป รูปทั้งหมดมี ๒๘ แข็ง มองไม่เห็นเลย รส ก็มองไม่เห็นเลย กลิ่น ก็มองไม่เห็นเลย แต่ในบรรดารูป ๒๘ รูป มีเพียงรูปเดียวที่ปรากฏให้เห็นได้ ๑ รูป เพราะฉะนั้นจะใช้คำว่า วิสยรูป คือ รูปที่สามารถจะเป็นอารมณ์ที่จิตสามารถจะรู้ได้ ใช้คำว่า “ วิสยรูป ” เป็นวิสัย เป็นรูปที่จิตสามารถจะรู้ได้ ๗ รูป

    เพราะฉะนั้นจะใช้คำว่า “ วิสยรูป ” หมายถึง รูปซึ่งเป็นอารมณ์ตามวิสัย แต่โดยความหมาย ก็ในบรรดารูปทั้งหมด รูป ๗ รูปเป็นอารมณ์ คือ จิตสามารถจะรู้รูปเหล่านี้ได้ เช่น ในขณะนี้สิ่งที่ปรากฏทางตา จิตกำลังเห็น เป็นรูป ๑ ใน ๗ ที่จิตสามารถจะรู้ได้ทางตา เป็นโคจรรูป เพราะเดี๋ยวก็จะเห็นอีก หรือเดี๋ยวก็จะได้ยิน คือไม่พ้นจาก ๗ รูป แต่ละรูปที่ปรากฏเป็นอารมณ์ของจิตได้เป็นโคจรรูป จิตไม่ได้เที่ยวไปทางอื่นเลย เกิดขึ้น บางทีเรียกว่า " โคจรรูป " จร แปลว่า ไป โค ไปทางไหน ไปทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย เป็นสำนวนที่จะให้เข้าใจ แต่ไม่ได้หมายความว่า ตัวโคที่กำลังท่องเที่ยว

    การฟังธรรม ฟังเพื่อให้เข้าถึงความหมายที่ทรงแสดงไว้ เพื่อให้รู้ว่า ที่ใช้คำนั้น หมายความถึงจิตที่ท่องเที่ยว คือ รู้อารมณ์ทางตาบ้าง ทางหูบ้าง ทางจมูกบ้าง ทางลิ้นบ้าง ทางกายบ้าง ไปประเทศไหนๆ จะพ้นจากอารมณ์ที่ปรากฏทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจได้ไหม สวรรค์ก็มีสิ่งที่ปรากฏทางตา หู จมูก ลิ้น กาย นรกก็มีสิ่งที่ปรากฏเป็นอารมณ์ได้ รูปที่ปรากฏเป็นอารมณ์ได้ ก็มี ๗ รูป ฉะนั้นได้ยินคำว่า วิสยรูป หรือ โคจรรูป ถ้าเราจะไม่เป็นคนที่เคร่งครัดในภาษา ในไวยากรณ์ หรือในอะไร เราก็สามารถเข้าใจได้ว่า หมายความถึง รูปที่เป็นวิสัย หรือเป็นอารมณ์ของจิตที่จิตสามารถรู้รูปเหล่านี้ได้จริงๆ ปรากฏจริงๆ ให้เห็นได้จริงๆ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย เพราะฉะนั้นต้องเข้าใจให้ถูกต้อง โคจรรูป วิสยรูป มี ๗ ถ้ามีจำนวนก็ชัดเจนเลยว่า แค่ ๗ รูปนี้เท่านั้น ในบรรดารูปทั้งหมดที่สามารถจะเป็นอารมณ์ของจิตในวันหนึ่งๆ เพราะเดี๋ยวก็เห็น เดี๋ยวก็ได้ยิน เดี๋ยวก็ได้กลิ่น เดี๋ยวก็ลิ้มรส แล้วแต่ว่าอารมณ์ใดจะปรากฏ ไม่พ้นไปจาก ๗ รูป


    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 368


    หมายเลข 12909
    31 ส.ค. 2567