ภพแม้เพียงเล็กน้อย ก็มีกลิ่นเหม็น
ขอกล่าวถึงข้อความใน อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต เอกธัมมาทิบาลี อีกนัยหนึ่ง ซึ่งท่านผู้ฟังจะพิจารณาได้ว่า พระผู้มีพระภาคย่อมทรงโอวาท และ พร่ำสอนสาวกให้เป็นผู้ที่อบรมเจริญปัญญาที่จะดับกิเลสเป็นสมุจเฉท
ข้อ ๒๐๓ มีข้อความว่า
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนคูถแม้เพียงเล็กน้อย ก็มีกลิ่นเหม็น ฉันใด ภพแม้เพียงเล็กน้อยก็ฉันนั้นเหมือนกัน เราไม่สรรเสริญโดยที่สุดแม้ชั่วกาลเพียงลัดนิ้วมือเดียวเลย ฯ
ข้อ ๒๐๔
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนมูตร ... น้ำลาย ... หนอง ... เลือดแม้เพียงเล็กน้อย ก็มีกลิ่นเหม็น แม้ฉันใด ภพแม้เพียงเล็กน้อยก็ฉันนั้นเหมือนกัน เราไม่สรรเสริญโดยที่สุดแม้ชั่วกาลเพียงลัดนิ้วมือเดียวเลย ฯ
เพราะฉะนั้น ไม่ใช่จะให้สาวกไปอบรมเจริญฌาน และเกิดในพรหมโลก และยังมีภพมีชาติเหลืออยู่อีกมากมาย ซึ่งแม้แต่พระโสดาบันบุคคลที่จะต้องเกิดอีก ๗ ชาติ พระผู้มีพระภาคยังตรัสว่า ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนคูถแม้เพียงเล็กน้อย ก็มีกลิ่นเหม็น ฉันใด ภพแม้เพียงเล็กน้อยก็ฉันนั้นเหมือนกัน
ภพชาติ ก็คือแต่ละขณะในขณะนี้ การเห็นในขณะนี้เป็น คูถแม้เพียงเล็กน้อยก็มีกลิ่นเหม็น หรือว่าจะเปรียบกับมูตร น้ำลาย หนอง เลือดก็ได้ หมายความถึงเป็นสิ่งที่ไม่สะอาดทั้งหมด เป็นสิ่งที่ควรรังเกียจ ไม่ควรจะมีความยินดีในการเห็น ในการได้ยิน ในการได้กลิ่น ในการลิ้มรส ในการรู้สิ่งที่กระทบสัมผัส ในภพ คือ ในนามธรรม และรูปธรรมที่ปรากฏในแต่ละขณะ
ที่มา ...