ถ้าเป็นข้อปฏิบัติผิดแล้ว ไม่ปฏิบัติดีกว่า


    ถ้าเป็นข้อปฏิบัติผิดแล้ว ไม่ปฏิบัติดีกว่า เพราะไม่ใช่การขัดเกลากิเลส และไม่ใช่การเจริญปัญญาด้วย ซึ่งบางท่านอาจจะกล่าวว่า ไม่เป็นไร ถึงข้อปฏิบัตินั้นจะไม่ใช่สติปัฏฐาน จะไม่ใช่การอบรมเจริญปัญญาที่ถูกต้อง แต่ก็ยังดีกว่าการกระทำทุจริต ยังคิดว่าดี ถ้าตราบใดยังเห็นว่า ข้อปฏิบัติผิดนั้นดี ผู้นั้นแทนที่จะขัดเกลากิเลส และเจริญปัญญา กลับเห็นผิด และสะสมกิเลส สะสมความยึดมั่นในข้อปฏิบัตินั้นยิ่งขึ้น เพราะถ้าตราบใดยังเห็นว่า ข้อปฏิบัตินั้นดี ก็ไม่ทิ้งในข้อปฏิบัตินั้นไปสู่ข้อปฏิบัติที่ถูก ที่สามารถอบรมเจริญปัญญา และขัดเกลากิเลสได้จริงๆ

    ใน อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต เอกธัมมาทิบาลี อีกนัยหนึ่ง ข้อ ๑๙๙ มีข้อความว่า

    ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ผู้ที่ปรารภความเพียรในธรรมวินัยที่กล่าวไว้ชั่ว ย่อมอยู่เป็นทุกข์ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะธรรมท่านกล่าวไว้ชั่ว ฯ

    ถ้าเพียรผิดย่อมอยู่เป็นทุกข์ เพราะไม่สามารถที่จะดับกิเลสอะไรได้ และก็เป็นการสะสมกิเลส และความเห็นผิดในข้อปฏิบัติธรรมด้วย แทนที่จะใช้เวลานั้นให้เป็นประโยชน์โดยการอบรมเจริญปัญญาจริงๆ

    ข้อความต่อไป

    ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ผู้เกียจคร้านในธรรมวินัยที่กล่าวไว้ดี ย่อมอยู่เป็นทุกข์ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะธรรมท่านกล่าวไว้ดีแล้ว ฯ

    ถ้าเป็นข้อปฏิบัติที่ถูก แต่ท่านก็ยังรีรอ ยังไม่เป็นผู้ที่ขยันในการศึกษารู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ท่านย่อมเป็นทุกข์ได้เวลาที่สติไม่เกิด ไม่รู้ลักษณะของสภาพธรรมนั้น เพราะพระผู้มีพระภาคตรัสว่า ผู้เกียจคร้านในธรรมวินัยที่กล่าวไว้ดี ย่อมอยู่เป็นทุกข์

    ข้อความต่อไป

    ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ผู้ที่เกียจคร้านในธรรมวินัยที่กล่าวไว้ชั่ว ย่อมอยู่เป็นสุข ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะธรรมท่านกล่าวไว้ชั่ว ฯ

    พระผู้มีพระภาคไม่ทรงโอวาทส่งเสริมให้มีความเพียรปฏิบัติในข้อปฏิบัติที่ผิด เพราะพระผู้มีพระภาคตรัสว่า ผู้ที่เกียจคร้านในธรรมวินัยที่กล่าวไว้ชั่ว ย่อมอยู่เป็นสุข ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะธรรมท่านกล่าวไว้ชั่ว ฯ

    ถ้าไม่ปฏิบัติผิดก็เป็นสุขจริงๆ คือ ไม่ต้องปวดหัว บางท่านปฏิบัติเคร่งเครียดจนกระทั่งสั่นไปหมดทั้งตัว และก็กล่าวว่า ขณะนั้นจำเป็นที่จะต้องเลิกปฏิบัติชั่วคราว เพราะมีความทุกข์อย่างมากเกิดขึ้น รู้สึกเหมือนกับว่าใจจะขาดหรือตัวขาด เพราะมีอาการผิดปกติต่างๆ เกิดขึ้น ซึ่งนั่นคือ ข้อปฏิบัติที่ทำให้เป็นทุกข์ ไม่ใช่เป็นการอบรมเจริญปัญญา

    ข้อความต่อไป พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

    ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ผู้ปรารภความเพียรในธรรมวินัยที่กล่าวไว้ดี ย่อมอยู่เป็นสุข ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะธรรมท่านกล่าวไว้ดีแล้ว ฯ

    ผู้ฟัง ตามพระไตรปิฎกที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้อย่างนี้ ก็ไม่มีใครเถียง คือ ข้อปฏิบัติผิดๆ ไม่มีใครชอบแน่ และก็เชื่อเหลือเกินว่า ถ้าปฏิบัติผิดแล้วย่อมอยู่เป็นทุกข์ แต่ผู้ที่ปฏิบัติผิดแล้ว ไม่รู้ว่าข้อปฏิบัติที่ท่านปฏิบัตินั้นผิด ไปยึดข้อปฏิบัติที่ผิด เข้าใจว่าข้อปฏิบัตินั้นถูก ท่านเหล่านั้นจึงปฏิบัติไปเรื่อยๆ ความทุกข์จึงเกิดขึ้น

    มีหลายท่านปฏิบัติผิด ผมก็พยายามแนะนำ ท่านก็ถือว่าข้อปฏิบัติของท่านถูกที่สุดแล้ว และยังมีหลักฐานอ้างอิงว่า อาจารย์นั้นกล่าวอย่างนั้น อาจารย์นี้กล่าวอย่างนี้ คนทั่วๆ ไปก็ปฏิบัติตามนี้

    สุ. ถ้าไม่ฟังพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงไว้โดยละเอียด โดยรอบคอบ ก็ไม่มีทางที่จะเกื้อกูลบุคคลใดได้เลย เพราะแต่ละคนก็สะสมมาที่จะมีความเห็น และมีความเข้าใจต่างๆ กัน นานาทิฏฐิ มีทิฏฐิต่างกันจริงๆ


    ที่มา ...

    แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 748


    หมายเลข 13024
    3 ก.ย. 2567