ถ้ามีกิเลส ก็ยังมีหนี้


    ถ. หนี้สินอื่นได้ชำระหมดแล้ว แม้แต่หนี้ชีวิตก็ชำระกันไปบ้าง ในชาตินี้ ผมไม่ได้มีหนี้อะไรกับใคร

    สุ. จริงหรือ ถ้ามีกิเลส ก็ยังมีหนี้

    ถ. มีเหลือแต่หนี้กิเลส ถ้าทำบัญชีรับจ่ายวันหนึ่งๆ ก็ขาดดุลทุกวัน มากมาย จะชำระอย่างไร

    สุ. จะเอาศรัทธาที่ไหนมามากๆ จะเอาสติที่ไหนมามากๆ จะเอาวิริยะที่ไหนมามากๆ จะเอาปัญญาที่ไหนมามากๆ ต้องค่อยๆ สะสมทีละเล็กทีละน้อย หนี้ยังมีทีละเล็กทีละน้อยจนหนาแน่น เพราะฉะนั้น เวลาจะชำระหนี้ ก็ต้องหาทรัพย์ คือ อริยทรัพย์ ได้แก่ ศรัทธา สติ วิริยะ สมาธิ ปัญญาที่เกิดในขณะที่ระลึก ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ชำระหนี้ไปเรื่อยๆ ทีละเล็กทีละน้อย โดยระลึกลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏ แต่ดีที่รู้สึกตัวว่ายังเป็นหนี้อยู่ เพื่อจะได้ชำระหนี้ ถ้าไม่รู้ตัวว่าเป็นหนี้ ก็ไม่ชำระหนี้ ใช่ไหม ก็พอกพูนไป ซึ่งการที่จะรู้ลักษณะของสภาพธรรมเป็นเรื่องละเอียด และเป็นเรื่องยาก แต่เป็นเรื่องที่รู้ได้จริงๆ เพราะว่าเป็นสัจธรรม เป็นของจริงที่สามารถพิสูจน์ได้

    ในการกล่าวถึงหนี้ หรือการอบรมเจริญปัญญา เป็นเรื่องยาก เป็นเรื่องที่ค่อยๆ เกิดขึ้นทีละเล็กทีละน้อย ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ใครคนหนึ่งคนใดสามารถจะหยิบยกอกุศลทั้งหมดออกทิ้งไปได้โดยการทำอย่างหนึ่งอย่างใด แต่ต้องเป็นการอบรมเจริญปัญญาตั้งแต่ขั้นการฟัง เพราะว่าที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงเรื่องของนามธรรม และรูปธรรมโดยละเอียดทั้งทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ ก็เพื่อให้เห็นว่า สภาพธรรมที่ปรากฏเสมือนว่าไม่ดับเลยเพราะเกิดดับสืบต่อกันอย่างเร็วมากนั้น แท้ที่จริงแล้ว เป็นเพียงจิตที่เกิดขึ้นชั่วขณะเดียว และทำกิจการงานสืบต่อกัน ในขณะที่มีการเห็นวาระหนึ่ง การได้ยินวาระหนึ่ง การได้กลิ่น การลิ้มรส การรู้สิ่งที่กระทบสัมผัส การคิดนึก


    ที่มา ...

    แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 1512


    หมายเลข 13044
    8 ก.ย. 2567