มีประโยชน์ไหมการฆ่าตัวตาย


    มีประโยชน์ไหมการฆ่าตัวตาย หนีภพไม่ได้ เมื่อยังมีอนุสัยกิเลสอยู่ ก็จะต้องมีการเกิด แล้วแต่ว่ากรรมจะทำให้เกิดในอบายภูมิ ในนรก หรือว่าเป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์ดิรัจฉาน แต่จะพ้นจากความปรารถนาในรูป ในเสียง ในกลิ่น ในรส ในโผฏฐัพพะ ในภพไม่ได้เลย ยังคงมีความปรารถนานั้นติดตาม นอนเนื่องอยู่ในจิต ซึ่งกรรมที่จะทำให้ปฏิสนธิ ก็ไม่แน่ว่าจะทำให้ปฏิสนธิในอบายภูมิ หรือในสุคติภูมิ

    เพราะฉะนั้น ถ้าบุคคลใดได้เกิดเป็นมนุษย์ เป็นสุคติภูมิ ไม่ควรเลยที่จะฆ่าตัวตาย เพราะเหตุว่าไม่พ้นจากกิเลส และยังแล้วแต่กรรมว่า กรรมนั้นจะทำให้ปฏิสนธิในภพใด ภูมิใด ถ้าเป็นในภพภูมิที่ไม่สามารถจะฟังธรรม ไม่สามารถที่จะประพฤติปฏิบัติธรรม ไม่สามารถที่จะอบรมเจริญกุศลได้ ก็ย่อมจะตกลงไปสู่ทางที่ต่ำ ไม่ใช่ไปสู่ทางที่เจริญ

    ถ. เรื่องฆ่าตัวเอง ผมมีพระที่เป็นเพื่อน เป็นเปรียญ ๙ เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ เป็นเจ้าอาวาส เป็นนักโหราศาสตร์ชั้น ๓ ขอโทษ ท่านตายไปแล้ว ท่านผูกคอตาย แต่ก่อนที่ท่านจะผูกคอตาย วันหนึ่งมีการทำบุญสมเด็จ ท่านก็มาช่วย ฉันหมาก ฉันพลู และท่านก็บอกว่าท่านไม่สบาย ผมก็พาไปส่ง พอรุ่งขึ้นอีกวันหนึ่ง ผมไปหา ขอดูดวงชะตาประจำปี ท่านก็เอาดวงไปดูแล้ว บวกเลข ผลลัพธ์เป็นเท่าไรไม่รู้ ท่านว่าประสาทฉันไม่ดีเลย นอนก็ไม่หลับ ต่อมาสัก ๔-๕ วัน ทางวัดมาบอกกับเจ้าคณะภาคว่า เจ้าคุณผูกคอตายเสียแล้ว ผมไปดูท่าน การผูกคอตายของท่านแปลกกับคนอื่น จุดธูป จุดเทียน มีขี้ธูป ไฟเทียนก็ยังแดงอยู่ ตัวท่านเองเป็นพระคณะมหานิกายห่มดอง ใส่ราชประคดเสร็จเรียบร้อย มีเก้าอี้อยู่ตัวหนึ่ง ตรงหน้าพระ ท่านผูกคอตาย

    จะว่ากระไร เป็นเปรียญ ๙ เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ มีความรู้อะไรๆ ทุกอย่างแม้กระทั่งโหราศาสตร์ ผูกคอตายเพราะเหตุไร แต่เท่าที่ทราบมา ท่านเป็นโรคประสาทอย่างที่ผมว่า ไปให้ท่านดูดวง ท่านบวกเลขไม่ได้ ทุกๆ คราวเคยทำได้ดี แต่วันนั้นบวกไม่ได้ บอกว่าดูไม่ได้เสียแล้ว ทำไม ๒+๒ เป็นเลขอะไรไม่รู้ ท่านบอกไม่ได้ ประสาทท่านเสียหมดเลย

    จะบาปบุญคุณโทษก็เป็นเรื่องของท่าน ปัญหาที่จะมาพูดนี้ พระผูกคอตาย ศีลขาดไหม

    ฆ่าตัวเอง หมดแล้ว จะมีอะไรเหลืออยู่มารับกรรมรับโทษเล่า ไม่มี ตายพร้อมกันไป จะเอาอะไรที่จะรับ เพราะฉะนั้น ก็ไม่เป็นปาราชิก แต่เป็นอาบัติทุกกฎ ซึ่งแปลว่า ทำไม่ดี คิดไม่ดี คิดผูกคอตาย เป็นอาบัติทุกกฎ เพราะฉะนั้น พระศีลไม่ขาด เพราะไม่มีอะไรจะขาดแล้ว หมดไปแล้ว กฎหมายเหมือนกัน ไม่เอาโทษ ถึงจะไม่ตาย ก็ไม่เอาโทษ

    สุ. พระภิกษุที่ท่านฆ่าตัวเองตาย จะอาบัติหรือไม่อาบัติ

    อาบัติ ใช้สำหรับเมื่อพระภิกษุท่านยังทรงเพศบรรพชิตอยู่ และได้ประพฤติผิดพระวินัยบัญญัติ เมื่อประพฤติผิดพระวินัยบัญญัติ ก็เป็นการต้องอาบัติ เพราะเหตุว่า ท่านยังคงอยู่ในเพศของบรรพชิต ยังมีชีวิตที่จะต้องรักษาพระวินัยต่อไป จึงเป็นอาบัติ ท่านจะต้องมีการกระทำคืน หรือแล้วแต่ว่า จะพ้นจากอาบัตินั้นด้วยประการใด

    แต่สำหรับพระภิกษุที่ท่านฆ่าตัวเองตาย พ้นจากสภาพของความเป็นบรรพชิตแล้ว จะอาบัติได้อย่างไร ไม่ใช่ว่ายังทรงเป็นสมณะเพศอยู่ และมีการที่จะต้องกระทำคืนให้พ้นจากอาบัตินั้น แต่เพราะเหตุว่าเมื่อตายไปแล้ว ไม่มีอะไรที่จะต้องประพฤติต่อไปในเพศของบรรพชิต จึงไม่กล่าวว่าอาบัติ แต่ถ้าไม่ตาย เป็นอาบัติ เพราะเหตุว่าเป็นการกระทำไปด้วยกำลังของกิเลส ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะกระทำ

    ที่มา ... แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 341

    ในพระไตรปิฎก เมื่อครั้งที่พระผู้มีพระภาคยังไม่ทรงปรินิพพานนั้น มีพระภิกษุหลายท่านที่ฆ่าตัวตาย แต่ก็มีหลายท่านที่ได้บรรลุมรรคผลเป็นพระอรหันต์ก่อนที่จะตาย นี่ก็เป็นผลของการอบรมเจริญสติปัฏฐาน จนกระทั่งสามารถที่จะระลึกรู้ลักษณะของนามธรรม และรูปธรรมก่อนตาย แม้ว่าจะเป็นการกระทำด้วยกำลังของกิเลส คือ การฆ่าตัวเอง

    สำหรับพุทธบริษัทในสมัยนี้ อย่าคิดที่จะกระทำอย่างนั้น อย่าคิดว่า ท่านจะฆ่าตัวตาย และท่านจะเจริญสติปัฏฐานเพื่อที่จะได้บรรลุมรรคผลนิพพานก่อนที่จะตาย ไม่ควรที่จะกระทำอย่างนั้น เพราะเหตุว่า เรื่องของการอบรมเจริญปัญญา เป็นเรื่องที่จะกระทำได้ สะสมอบรมไปได้ ในระหว่างที่ยังมีชีวิตเป็นมนุษย์อยู่ แต่ถ้าจุติ พ้นสภาพจากการเป็นมนุษย์แล้ว ไม่ทราบว่าท่านจะเกิดในภพไหน ภูมิไหน เมื่อท่านยังไม่ได้เป็นพระอริยเจ้า ถ้าท่านเกิดในอบายภูมิ เป็นสัตว์ดิรัจฉาน เกิดในนรก เป็นเปรต เป็นอสุรกาย ก็ไม่มีโอกาสที่จะได้เจริญอบรมปัญญา จนกระทั่งรู้แจ้งอริยสัจธรรม

    ในครั้งก่อนมีบุคคลที่ได้เห็นคุณค่าของการเป็นมนุษย์ และได้เพียรพยามที่จะขัดเกลากิเลส แต่ก็มีหลายท่านที่แม้ว่าจะได้พากเพียรขัดเกลากิเลส แต่ท่านก็สิ้นชีวิตไปก่อนที่จะได้มีโอกาสได้ฟังธรรมจากพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า


    ที่มา ...

    แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 342


    หมายเลข 13166
    3 ต.ค. 2567