ฉัตตมาณวกวิมาน เรื่องของฉัตตมาณพ


    ข้อความใน ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ ฉัตตมาณวกวิมาน มีว่า

    พระผู้มีพระภาคเพื่อจะทรงประกาศบุญกรรม อันฉัตตเทพบุตรนั้นทำแล้ว จึงได้ตรัสถามฉัตตเทพบุตรนั้นว่า

    ท่านได้มาเกิดในวิมานนี้เพราะผลแห่งกรรมอะไร ก็วิมานนี้อันท่านได้แล้วด้วยประการใด ตถาคตถามแล้ว ขอท่านจงบอกเหตุแห่งการได้วิมานนั้น ด้วยประการนั้นเถิด

    ฉัตตเทพบุตรเคยทำอกุศลกรรมไหม ต้องเคยแน่นอน และก็เคยกระทำกุศลกรรมด้วย แต่ผลของกุศลก็ทำให้เกิดในสวรรค์

    ฉัตตเทพบุตรกราบทูลว่า

    ข้าแต่พระผู้มีพระภาค พระองค์ได้พบกับมาณพคนหนึ่ง ชื่อฉัตตมาณพ ซึ่งเดินทางมาในทางนี้ พระองค์ทรงเป็นครู ทรงเอ็นดูพร่ำสอนธรรมแก่เขา ฉัตตมาณพนั้น คือ ข้าพระองค์ ได้ฟังธรรมของพระองค์ผู้เป็นรัตนะอันประเสริฐแล้ว ได้ทูลรับรองว่า จะกระทำตามที่พระองค์พร่ำสอน

    อนึ่ง พระองค์ได้ตรัสบอกแก่ข้าพระองค์ว่า ท่านจงเข้าถึงพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐ กับทั้งพระธรรม และพระสงฆ์ว่า เป็นที่พึ่งเถิด

    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ทีแรกข้าพระองค์ทูลปฏิเสธ ภายหลังได้ทำตาม พระดำรัสของพระองค์เหมือนอย่างนั้น

    อนึ่ง พระองค์ได้ตรัสบอกว่า ท่านอย่าได้ประพฤติฆ่าสัตว์ มีประการต่างๆ อันเป็นความไม่สะอาด เพราะท่านผู้มีปัญญาทั้งหลาย ย่อมไม่สรรเสริญความไม่สำรวมในสัตว์ทั้งหลาย

    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ทีแรกข้าพระองค์ทูลปฏิเสธ แต่ภายหลังได้ทำตาม พระดำรัสของพระองค์เหมือนอย่างนั้น

    อนึ่ง พระองค์ตรัสบอกว่า ท่านอย่าได้ถือเอาสิ่งของที่คนอื่นรักษาหวงแหน และอย่าได้คบชู้กับภรรยาของผู้อื่น เพราะข้อนี้ไม่ประเสริฐ

    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ทีแรกข้าพระองค์ทูลปฏิเสธ แต่ภายหลังได้ทำตาม พระดำรัสของพระองค์เหมือนอย่างนั้น

    อนึ่ง พระองค์ได้ตรัสบอกว่า ท่านอย่าได้พูดให้คลาดเคลื่อนจากความจริง เพราะผู้มีปัญญาทั้งหลาย มิได้สรรเสริญการพูดเท็จ

    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ทีแรกข้าพระองค์ทูลปฏิเสธ แต่ภายหลังได้ทำตาม พระดำรัสของพระองค์เหมือนอย่างนั้น

    อนึ่ง พระองค์ได้ตรัสบอกว่า สัญญาของบุรุษย่อมฟั่นเฟือนไปเพราะน้ำเมาอันได้ดื่มแล้ว ท่านจงงดเว้นน้ำเมาอันเป็นโทษทั้งหมด

    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ทีแรกข้าพระองค์ทูลปฏิเสธ แต่ภายหลังได้ทำตาม พระดำรัสของพระองค์เหมือนอย่างนั้น

    ที่มา ... แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 344

    ข้าพระองค์นั้นได้รักษาศีล ๕ ในศาสนาของพระองค์ และได้ปฏิบัติในธรรมของพระตถาคต ได้เดินทางไปถึงระหว่างเขตบ้านทั้งสอง ในท่ามกลางหมู่โจร โจรเหล่านั้นได้ฆ่าข้าพระองค์เพราะเหตุแห่งโภคทรัพย์ ข้าพระองค์ระลึกถึงกุศลมีประมาณเท่านี้ สิ่งอื่นอันยิ่งไปกว่ากุศลตามที่กราบทูลแล้วนั้น มิได้มีแก่ข้าพระองค์ เพราะกรรมอันสุจริตนั้น ข้าพระองค์จึงได้เกิดในไตรทิพย์ พรั่งพร้อมด้วยกามคุณตามปรารถนา ขอพระองค์ทรงดูผลแห่งการถึงสรณคมน์ สมาทานศีล และการปฏิบัติธรรมอันสมควร สิ้นกาลเพียงครู่หนึ่ง เหมือนดังรุ่งเรืองอยู่ด้วยฤทธิ์ และยศ เกินจะประมาณ

    ชนทั้งหลายซึ่งมีโภคทรัพย์ด้อยกว่าสมบัติของข้าพระองค์เป็นอันมาก มาเห็นสมบัติอันมากของข้าพระองค์ ย่อมอยากได้ ขอพระองค์ทรงดูผลแห่งเทศนาอันเล็กน้อย อันข้าพระองค์ฟังแล้ว ข้าพระองค์ยังไปสู่สุคติ และได้ประสพความสุข ชนเหล่าใดได้ฟังธรรมของพระองค์เนืองๆ ชนเหล่านั้นเห็นจะได้บรรลุนิพพาน อันเป็นธรรมไม่ตาย เป็นธรรมเกษม เพราะกุศลมีประมาณไม่น้อย อันชนเหล่านั้นทำแล้ว ขอพระองค์ทรงดูผลอันมากมายไพบูลย์ อันข้าพระองค์ตั้งอยู่ในธรรมของพระตถาคตทำไว้แล้ว

    ฉัตตเทพบุตรยังปฐพีให้สว่างไสวดุจพระอาทิตย์ เพราะเป็นผู้มีบุญอันทำไว้แล้วก็ชนบางพวกได้พบได้เห็นแล้ว พากันคิดว่า พวกเราจะทำกุศลอย่างไร จะประพฤติอย่างไร จึงจะได้อย่างนี้ คิดไป คิดไป เห็นว่าทำได้แสนยาก ดุจพลิกแผ่นดิน และ ดุจยกเขาสิเนรุราช ชนเหล่านั้นจึงคิดว่า พวกเราได้ความเป็นมนุษย์อีกแล้ว ควรเป็นผู้มีศีล ปฏิบัติ ประพฤติธรรม

    พระองค์เป็นครูของข้าพระองค์ ทรงมีอุปการะ และอนุเคราะห์แก่ข้าพระองค์เป็นอันมาก เมื่อข้าพระองค์ได้พบพระองค์แล้วในวันนั้น ก็ได้ถูกพวกโจรฆ่าตายในเวลาเช้า ข้าพระองค์เป็นฉัตตมาณพได้เข้าถึงสัจจนาม ขอพระองค์ทรงอนุเคราะห์แก่ข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะขอฟังธรรมอีก

    ชนเหล่าใดในศาสนานี้ ละกามราคะ ภวราคะ อันเป็นอนุสัย และโมหะแล้ว ชนเหล่านั้น ย่อมไม่เข้าถึงการนอนในครรภ์ต่อไป เพราะว่าเป็นผู้บรรลุนิพพาน มีความเย็นเกิดแล้ว

    จบ ฉัตตมาณวกวิมานที่ ๓

    ถ้าท่านได้พบ และพระผู้มีพระภาคทรงพร่ำสอน ทรงแสดงธรรม ให้งดเว้น ให้ละเว้นการฆ่าสัตว์ เป็นต้น ทีแรกจะทูลปฏิเสธหรือเปล่าว่า ทำไม่ได้ หรือว่าแสนยาก แต่ว่าภายหลังก็ได้กระทำตามพระดำรัสนั้น เพราะฉะนั้น ชีวิต ก็ไม่แน่ว่าพรุ่งนี้จะมีอะไรเกิดขึ้น แต่เพียงชั่วขณะที่งดเว้น ละเว้นทุจริตกรรม เช่น ปาณาติบาต เป็นกุศลที่ควรจะสะสม ที่จะกระทำ ซึ่งก็เหมือนข้อความในพระไตรปิฎกที่ว่า คิดๆ ไปเห็นว่า ทำได้แสนยาก ดุจพลิกแผ่นดิน และดุจยกเขาสิเนรุราช แต่ถ้าอบรมเจริญไปเรื่อยๆ ก็ย่อมจะถึงวันหนึ่งที่ทำได้อย่างสบาย เพราะว่าได้บรรลุคุณธรรมถึงความที่จะดับกิเลส ละอกุศลกรรมบถเหล่านั้นได้ แต่ต้องอาศัยการเจริญ การอบรม แต่ถ้าไม่เจริญสติปัฏฐาน ไม่มีอะไรเลยที่จะดับกิเลสได้

    เมื่อยังเป็นผู้ที่มีกิเลสอยู่ และทรงแสดงธรรมว่า ธรรมใดเป็นโทษ ธรรมใดเป็นอกุศล ก็ควรละเว้น งดเว้น แม้ชั่วขณะเล็กน้อย


    ที่มา ...

    แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 345


    หมายเลข 13170
    4 ต.ค. 2567