กุมารกสูตร เด็กรุ่นหนุ่มมากด้วยกัน จับปลา


    ขุททกนิกาย อุทาน กุมารกสูตร มีข้อความว่า

    ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้

    สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ก็สมัยนั้นแล เด็กรุ่นหนุ่มมากด้วยกัน จับปลาอยู่ในระหว่างพระนครสาวัตถีกับพระวิหารเชตวัน ครั้งนั้นแลเป็นเวลาเช้า พระผู้มีพระภาคทรงอันตรวาสกแล้ว ทรงถือบาตร และจีวร เสด็จเข้าไปบิณฑบาตยังพระนครสาวัตถี ได้ทอดพระเนตรเห็นเด็กรุ่นหนุ่มมากด้วยกัน จับปลาอยู่ในระหว่างพระนครสาวัตถีกับพระวิหารเชตวัน ครั้นแล้วเสด็จเข้าไปหาเด็กรุ่นหนุ่มเหล่านั้น แล้วได้ตรัสถามว่า

    พ่อหนูทั้งหลาย เธอทั้งหลายกลัวต่อความทุกข์ ความทุกข์ไม่เป็นที่รักของเธอทั้งหลายมิใช่หรือ

    เด็กเหล่านั้นกราบทูลว่า

    อย่างนั้นพระเจ้าข้า ข้าพระองค์ทั้งหลายกลัวต่อความทุกข์ ความทุกข์ไม่เป็นที่รักของข้าพระองค์ทั้งหลาย

    ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว ได้ทรงเปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่า

    ถ้าท่านทั้งหลายกลัวต่อความทุกข์ ถ้าความทุกข์ไม่เป็นที่รักของท่านทั้งหลายไซร้ ท่านทั้งหลายอย่าได้ทำบาปกรรม ทั้งในที่แจ้งหรือในที่ลับเลย ถ้าท่านทั้งหลายจักทำหรือทำอยู่ซึ่งบาปกรรมไซร้ ท่านทั้งหลายแม้จะเหาะหนีไป ก็ย่อมไม่พ้นไปจากความทุกข์เลย

    นี่เป็นเหตุการณ์ที่พระผู้มีพระภาคได้ประสบด้วยพระองค์เอง ซึ่งทุกท่านก็คงจะได้เห็นเหตุการณ์เช่นนี้ ถึงแม้ว่าพระผู้มีพระภาคได้ทรงแสดงธรรมเรื่องของเหตุกับผล กุศล และอกุศลมากน้อยเท่าไรก็ตาม ก็ยังคงมีการประทุษร้าย เบียดเบียน โดยที่ไม่คิดถึงความทุกข์ ความเดือดร้อนของสัตว์อื่น และไม่ทราบด้วยว่า การกระทำนั้นจะให้ผลอย่างไร เพราะถึงแม้ว่าพระผู้มีพระภาคจะได้ทรงแสดงผลของการกระทำนั้นไว้แต่บุคคลที่กำลังกระทำอกุศลกรรมนั้นอยู่ ยังไม่เห็นผล

    ถ้าเวลานี้จะมีใครฆ่าสัตว์ บุคคลที่ฆ่าสัตว์ยังไม่เห็นผลว่า ผลของการฆ่าสัตว์นั้น จะทำให้ได้รับวิบากกรรมที่ไม่น่าพึงพอใจประการใดบ้าง เพราะฉะนั้น เมื่อไม่เห็นผลที่จะเกิดขึ้น ก็ยังคงมีการกระทำอกุศล และทุจริตกรรมอยู่

    ซึ่งพระผู้มีพระภาคก็ได้ทรงแสดงเรื่องผลของกรรมไว้โดยละเอียด ใน มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ วิภังควรรค จูฬกัมมวิภังคสูตร พระผู้มีพระภาคตรัสกับสุภมาณพ โตเทยยบุตร มีข้อความถึงผลของปาณาติบาตว่า

    ผู้มักทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วง เป็นคนเหี้ยมโหด มีมือเปื้อนเลือด หมกมุ่นในการประหัตประหาร ไม่เอ็นดูในเหล่าสัตว์มีชีวิต เขาตายไป จะเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้

    หากตายไป ไม่เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีอายุสั้น มีโรคมาก

    ถ้ามักโกรธ มากด้วยความแค้นเคือง ก็จะเป็นผู้ที่มีผิวพรรณทราม

    ถ้าริษยามุ่งร้าย อิจฉาในลาภสักการะ ความเคารพ ความนับถือ การไหว้ และการบูชาของคนอื่น ก็จะเป็นคนมีศักดาน้อย

    ถ้าเป็นบุคคลที่ไม่ให้ข้าว น้ำ ก็จะเป็นผู้ที่มีโภคน้อย

    ถ้าเป็นบุคคลที่กระด้าง ก็จะเป็นผู้ที่มีสกุลต่ำ

    ถ้าเป็นบุคคลที่ไม่สอบถามธรรม ก็จะเป็นผู้ที่มีปัญญาทราม

    ก็เป็นไปตามเหตุตามปัจจัย เพราะฉะนั้น ผลของการเบียดเบียนสัตว์อื่น บุคคลอื่นให้เดือดร้อน ท่านเห็นผลอยู่แล้วในชาตินี้ คือ บุคคลที่อายุสั้นก็มี บุคคลที่มีโรคภัยไข้เจ็บมากก็มี ซึ่งจะต้องมาจากอกุศลกรรมในอดีต ที่เป็นการกระทำการเบียดเบียนสัตว์อื่นให้เดือดร้อนทางกาย

    ท่านเองก็ไม่ทราบว่า วันไหนจะได้รับผลของอกุศลกรรมในอดีตที่ได้กระทำไว้แล้ว และคงจะไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดที่ไม่เคยได้รับผลของอกุศลกรรมทางกาย มีการเจ็บปวด ป่วยไข้ต่างๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นผลของอกุศลกรรมทั้งสิ้น


    ที่มา ...

    แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 343


    หมายเลข 13171
    4 ต.ค. 2567