ศึกษามาแล้วทั้งหมด ประโยชน์อย่างยิ่งคืออะไร
ได้ทราบจากท่านผู้ฟังบางท่านว่า มีท่านผู้ศึกษาธรรมท่านหนึ่ง ท่านกล่าวว่า ท่านฟังเรื่องแนวทางเจริญวิปัสสนาไปอย่างนั้นเอง คือ ฟังไปเฉยๆ เพราะรู้สึกว่า เป็นเรื่องเล็กน้อย ในเมื่อตัวท่านเป็นผู้ที่ได้ศึกษาพระอภิธัมมัตถสังคหะ และได้ศึกษาพระอภิธรรมปิฎก ทั้งฝ่ายคัมภีร์ยมก ปัฏฐาน วิภังค์ เป็นต้น เพราะฉะนั้น ท่านก็รู้สึกว่า เรื่องการเจริญสติปัฏฐานนั้น เป็นเรื่องธรรมดา เล็กน้อย ไม่ลึกซึ้ง หรือว่าไม่เหมือนกับที่ท่านได้ศึกษาพระอภิธรรมปิฎก
การที่ท่านผู้หนึ่งผู้ใดจะได้รับประโยชน์จากการฟังธรรม หรือการศึกษาธรรม แม้อภิธรรมปิฎกก็ตาม หรือธรรมส่วนอื่น คือ พระวินัยปิฎก และพระสุตตันตปิฎก ก็ด้วยการมนสิการของบุคคลนั้น คือ จะได้รับประโยชน์มากน้อยต่างกัน ตามควรแก่มนสิการของบุคคลนั้น
ท่านผู้ฟังจะเห็นได้ว่า การศึกษาธรรม ไม่ว่าจะเป็นพระวินัยก็ตาม พระสุตตันตปิฎกก็ตาม พระอภิธัมมัตถสังคหะ หรือพระอภิธรรมปิฎกก็ตาม จุดประสงค์นั้นเพื่ออะไร ถ้าท่านศึกษาพระอภิธรรม ท่านก็จะศึกษาเรื่องของจิตปรมัตถ์ เจตสิกปรมัตถ์ รูปปรมัตถ์ นิพพานปรมัตถ์ จิตมีประเภทต่างๆ มากมาย เป็นกามาวจรจิต เป็นไปกับรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ เป็นรูปาวจรจิต เป็นจิตที่เจริญอบรมความสงบจากรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ จนกระทั่งบรรลุถึงอัปปนาสมาธิ เป็นฌานจิต และเจตสิกก็มีมากมาย
ซึ่งที่ได้ศึกษามาแล้วทั้งหมด ประโยชน์อย่างยิ่งคืออะไร
เรียนเรื่องของจิต เจตสิก รูปแล้ว แต่ประโยชน์อย่างยิ่งจริงๆ ไม่ใช่เพียงรู้เรื่องของจิต เจตสิก รูป ในเมื่อทุกขณะที่มีชีวิตอยู่ มีจิต เจตสิก และรูป จึงเป็นสิ่งที่ควรจะศึกษาในลักษณะของจิต เจตสิก รูปที่ปรากฏ ให้รู้ชัดตามความเป็นจริงว่า เป็นนามธรรม เป็นรูปธรรม ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตนอย่างไร
ไม่ใช่เพียงตามเหตุ ตามผล ตามที่ได้ศึกษาเท่านั้น แต่ในขณะที่จิต เจตสิก รูปชนิดใดมีเหตุปัจจัยเกิดขึ้นปรากฏ ก็ควรจะได้ศึกษาด้วยการสำเหนียก สังเกต ด้วยสติที่ระลึกรู้ในลักษณะของนามธรรม ในลักษณะของรูปธรรมที่กำลังปรากฏ เพื่อความสมบูรณ์ของปัญญาที่จะได้รู้ชัดตามความเป็นจริงว่า สภาพธรรมทั้งหลายไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตนจริงๆ
ไม่ใช่เพียงแต่การฟัง และมีความรู้กว้างขวางในเรื่องของจิต เจตสิก รูป แต่ไม่ระลึกรู้ลักษณะของจิต เจตสิก รูปที่เกิดปรากฏตามปกติ ตามความเป็นจริง
เพราะฉะนั้น ผู้ที่เพียงศึกษาปรมัตถธรรม ไม่สมบูรณ์ด้วยความเห็นถูกในธรรม ตราบใดที่สติไม่เกิดขึ้น ระลึกรู้ลักษณะของนามธรรม และรูปธรรม ให้ถูกต้องตรงตามที่ได้ศึกษามา
สำหรับประโยชน์จริงๆ ของการศึกษา คือ ในขณะที่สติเกิดขึ้นระลึกรู้ลักษณะของนามธรรม จะเป็นจิตหรือจะเป็นเจตสิกก็ตาม หรือระลึกรู้ลักษณะของรูปธรรม โดยอาศัยปัญญาที่เกิดจากการฟัง การศึกษาขั้นปริยัติ ทำให้เข้าใจ และสามารถที่จะละคลายการยึดถือสภาพธรรมนั้นว่า เป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นตัวตนได้
เพราะฉะนั้น เรื่องของการเจริญสติปัฏฐานเป็นเรื่องที่ไม่ใช่เพียงฟัง แต่ว่าเมื่อฟังแล้วเข้าใจ ก็อบรม เพื่อให้ปัญญาเจริญขึ้น จนกระทั่งสามารถที่จะประจักษ์ในลักษณะของสภาพธรรมถูกต้องตามความเป็นจริงได้
ที่มา ...