การให้ผลของกรรม แล้วแต่กาละ


    ถ. การพูดถึงกรรม และผลของกรรมที่ท่านอาจารย์กล่าวนั้น คือ การกระทำความผิดต่างๆ การกระทำทุจริตต่างๆ ผลของกรรมในปัจจุบันนี้ก็อาจมีได้ แต่ว่ามียากเหลือเกิน โดยมากจะปรากฏในอนาคต

    ส่วนที่ว่าการกระทำทุจริตต่างๆ แล้วได้รับการบำเรอต่างๆ การบำเรอต่างๆ นี้ ไม่ใช่ผลของการกระทำกรรมที่ทุจริตในปัจจุบันนี้แน่ เหตุกับผลไม่ตรงกัน กระทำทุจริต ทำไมจึงได้รับการบำเรอ แต่การบำเรอต่างๆ ที่ได้รับ ผมเข้าใจว่า คงจะเนื่องมาจากกุศลกรรมในอดีต ส่วนการกระทำอกุศลกรรมในปัจจุบันนี้ ก็ปรากฏว่าถูกลงโทษ ทำร้ายต่างๆ นั้น ก็อาจจะปรากฏผลในปัจจุบันนี้ได้บ้างในบางโอกาส แต่ว่าน้อยเต็มที แต่ผลก็ไม่หนีไปจากอกุศลกรรมในอดีต ทีนี้ ขณะที่พระผู้มีพระภาคกำลังอธิบายอยู่นั้น รู้สึกว่านำมาใกล้ชิดกันเข้า ก็อาจจะทำให้เกิดการเข้าใจคลาดเคลื่อนไปได้ กระผมเข้าใจอย่างนี้ครับ

    สุ. โดยมากผู้ฟังที่ไม่ได้คิดถึงเหตุกับผลว่าจะต้องตรงกัน เวลาเห็นบุคคลใดได้รับรางวัล ได้รับการบำรุงบำเรอ ได้รับการประดับประดา ยกย่องต่างๆ จากการกระทำสิ่งที่เป็นอกุศลกรรม ก็เข้าใจว่า นั่นเป็นผลของการกระทำอกุศลกรรม เข้าใจว่าอกุศลกรรมเป็นกุศล เป็นสิ่งที่ควรเจริญ เป็นสิ่งที่ควรทำ

    แต่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงอกุศลกรรมบถ ซึ่งได้แก่ปาณาติบาต การฆ่าสิ่งที่มีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นใคร ในขณะนั้นอกุศลจิตต้องเกิด จึงจะกระทำการฆ่าสิ่งที่มีชีวิตนั้นได้ ไม่ใช่เป็นเพราะกุศลจิตแน่นอน และเมื่ออกุศลจิตที่เป็นเหตุให้กระทำการฆ่าสัตว์ที่มีชีวิตลงไปแล้ว ก็จะเป็นปัจจัยให้เกิดอกุศลวิบาก แต่ไม่ใช่ว่า ต้องได้รับผลในปัจจุบันชาตินั้นทุกคน

    การให้ผลของกรรม แล้วแต่กาละ อาจจะให้ผลในปัจจุบันชาติ หรืออาจจะให้ผลในชาติต่อไป หรืออาจจะให้ผลในชาติต่อจากนั้นไปอีกก็ได้ ซึ่งแล้วแต่ว่าอกุศลกรรมที่ได้กระทำนั้น พร้อมด้วยเหตุปัจจัยที่จะให้เกิดผลเมื่อไร

    การได้รับรูป รส กลิ่น เสียง โผฏฐัพพะที่ดีทั้งหมด ต้องเป็นผลของกุศลกรรมส่วนการได้รับรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะที่ไม่น่าพอใจทั้งหมด ที่เป็นอนิฏฐารมณ์ ก็ต้องเป็นผลของอกุศลกรรม ซึ่งไม่จำเป็นที่จะต้องได้รับในปัจจุบันชาติ เพราะฉะนั้น ถ้าบุคคลใดมีวาทะ มีคำพูด หรือมีความเห็นว่า ทุกคนจะต้องได้รับทุกข์โทมนัสในปัจจุบันชาติ บุคคลนั้นกล่าวเท็จ พูดไม่ถูก เพราะเหตุว่ามีความเห็นผิด


    ที่มา ...

    แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 331


    หมายเลข 13200
    13 ต.ค. 2567