การกระทำตอบแทนมารดาบิดา
อังคุตตรนิกาย ทุกนิบาต มีข้อความว่า
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวการกระทำตอบแทนไม่ได้ง่ายแก่ท่านทั้งสอง ท่านทั้งสองคือใคร คือ มารดา ๑ บิดา ๑
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย บุตรพึงประคับประคองมารดาด้วยบ่าข้างหนึ่ง พึงประคับประคองบิดาด้วยบ่าข้างหนึ่ง เขามีอายุ มีชีวิตอยู่ตลอด ๑๐๐ ปี แล้วเขาพึงปฏิบัติท่านทั้งสองนั้น ด้วยการอบกลิ่น การนวด การให้อาบน้ำ และการดัด แล้วท่านทั้งสองนั้นพึงถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ บนบ่าทั้งสองของเขานั่นแหละ ดูกร ภิกษุทั้งหลาย การกระทำอย่างนั้นยังไม่ชื่อว่า อันบุตรทำแล้ว หรือทำตอบแทนแล้วแก่มารดาบิดาเลย
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง บุตรพึงสถาปนามารดาบิดาในราชสมบัติ อันเป็น อิสราธิปัตย์ในแผ่นดินใหญ่ อันมีรัตนะ ๗ ประการมากหลายนี้ การกระทำกิจอย่างนั้น ยังไม่ชื่อว่าอันบุตรทำแล้ว หรือทำตอบแทนแล้วแก่มารดาบิดาเลย ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะมารดาบิดามีอุปการะมาก บำรุงเลี้ยง แสดงโลกนี้แก่บุตรทั้งหลาย
ส่วนบุตรคนใดยังมารดาบิดาผู้ไม่มีศรัทธา ให้สมาทานตั้งมั่นในศรัทธาสัมปทา ยังมารดาบิดาผู้ทุศีล ให้สมาทานตั้งมั่นในศีลสัมปทา ยังมารดาบิดาผู้มีความตระหนี่ ให้สมาทานตั้งมั่นในจาคสัมปทา ยังมารดาบิดาผู้ทรามปัญญา ให้สมาทานตั้งมั่นในปัญญาสัมปทา
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้แล การกระทำอย่างนั้นย่อมชื่อว่า อันบุตรนั้นทำแล้ว และทำตอบแทนแล้วแก่มารดาบิดา
ผู้มีพระคุณไม่จำกัดเฉพาะมารดาบิดา ครูอาจารย์ และผู้อื่นซึ่งมีอุปการคุณด้วย ถ้าท่านผู้ฟังสามารถที่จะตอบแทนด้วยวัตถุ ก็ยังไม่เท่ากับการที่จะให้ท่านเหล่านั้น ผู้ไม่มีศรัทธา ให้ตั้งมั่นในศรัทธาสัมปทา ผู้ไม่มีศีลหรือว่าเป็นผู้ทุศีล ให้ตั้งมั่นในศีลสัมปทา ผู้มีความตระหนี่ ให้ตั้งมั่นในจาคสัมปทา ผู้ทรามปัญญา ให้สมาทานตั้งมั่นในปัญญาสัมปทา
นี่เป็นสิ่งซึ่งแม้ศิษย์ก็ควรจะได้กระทำต่อครูบาอาจารย์ด้วย ไม่ใช่เฉพาะมารดาบิดาเท่านั้น หรือแม้บุคคลอื่นผู้มีคุณ ก็ควรที่จะได้ตอบแทนคุณอย่างสูงที่สุดด้วยการให้ท่านเจริญกุศลทุกประการ
ถ้าท่านอยู่ในฐานะมารดาบิดา ได้รับการทอดทิ้งไม่เอาใจใส่ ก็เจริญสติ
ที่มา ...