อุปติสสสูตร โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัสสะ และอุปายาสะ
สังยุตตนิกาย นิทานวรรค อุปติสสสูตร มีข้อความว่า
ครั้งนั้นพระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล ท่านพระสารีบุตรเรียกภิกษุทั้งหลายว่า
ดูกร ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย
ภิกษุทั้งหลายได้รับคำท่านพระสารีบุตรแล้ว ท่านพระสารีบุตรกล่าวว่า
ดูกร ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ความปริวิตกแห่งใจได้บังเกิดขึ้นแก่เราผู้เร้นอยู่ในที่ลับอย่างนี้ว่า โสกปริเทวทุกขโทมนัส และอุปายาสพึงบังเกิดขึ้นแก่เรา เพราะความแปรปรวนเป็นอย่างอื่นแห่งสัตว์หรือสังขารใด สัตว์หรือสังขารบางอย่างนั้นยังมีอยู่ในโลกหรือ เราได้มีความดำริว่า โสกปริเทวทุกขโทมนัส และอุปายาสไม่พึงบังเกิดขึ้นแก่เรา เพราะความแปรปรวนเป็นอย่างอื่นแห่งสัตว์หรือสังขารใด สัตว์หรือสังขารบางอย่างนั้น ไม่มีอยู่ในโลกเลย
สำหรับท่านพระสารีบุตร ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใด เหตุการณ์อย่างหนึ่งอย่างใดที่จะทำให้จิตของท่านแปรปรวนเป็นโสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัสสะ และอุปายาสะได้เลย
ข้อความในพระสูตรต่อไปมีว่า
เมื่อท่านพระสารีบุตรกล่าวอย่างนี้แล้ว ท่านพระอานนท์ได้กล่าวกะท่าน พระสารีบุตรดังนี้ว่า
ดูกร ท่านสารีบุตรผู้มีอายุ โสกปริเทวทุกขโทมนัส และอุปายาสไม่พึงบังเกิดขึ้นแก่ท่าน เพราะความแปรปรวนเป็นอย่างอื่นแม้แห่งพระศาสดาแลหรือ
พระสารีบุตรกล่าวว่า
ดูกร ท่านผู้มีอายุ โสกปริเทวทุกขโทมนัส และอุปายาสไม่พึงบังเกิดขึ้นแก่ผม เพราะความแปรปรวนเป็นอย่างอื่นแม้แห่งพระศาสดาแล
อนึ่ง ผมดำริว่า พระผู้มีพระภาคเป็นสัตว์ผู้มีศักดาใหญ่ มีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก อันตรธานไปแล้ว ถ้าพระองค์พึงดำรงอยู่ตลอดกาลนาน ข้อนั้นจักเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่ชนเป็นอันมาก เพื่อสุขแก่ชนเป็นอันมาก เพื่ออนุเคราะห์โลก เพื่อประโยชน์ เพื่อเกื้อกูล เพื่อสุขแก่เทพยดา และมนุษย์ทั้งหลาย
ก็ความจริง ท่านพระสารีบุตรถอนอหังการ มมังการ และมานานุสัยได้นานแล้ว เพราะฉะนั้น โสกปริเทวทุกขโทมนัส และอุปายาสทั้งหลายจึงไม่บังเกิดขึ้นแก่ท่านพระสารีบุตร เพราะความแปรปรวนเป็นอย่างอื่นแม้แห่งพระศาสดาแล ด้วยประการฉะนี้
ไม่มีเหตุที่จะต้องโศกเศร้า หรือว่าเป็นทุกข์โทมนัสเหมือนอย่างท่านพระอานนท์ ซึ่งท่านพระอานนท์ยังเป็นพระโสดาบันบุคคล ยังไม่ใช่พระอนาคามี ยังไม่ใช่พระอรหันต์
ที่มา ...