การกล่าวว่ามีสติ จะเป็นผู้เจริญสติได้ไหม
ผู้ฟัง การรู้สึกแต่เพียงว่า มีสติ ก็ไม่ถูก สติปัฏฐานก็หมายความถึงว่า นอกจากจะรู้ว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้แล้ว ก็ต้องฟังจนเข้าใจรู้ว่า สตินั้นเกิดขึ้น ขณะนั้นเมื่อสติ หรือขณะนั้นไม่ใช่สติ
ท่านอาจารย์ สติระลึกรู้ลักษณะของปรมัตถธรรม คือ แข็ง เราบอกโดยชื่อว่าเป็นปรมัตถธรรม แต่เวลาที่กำลังกระทบแข็ง ก็มีแข็ง แล้วปกติธรรมดา ก็เป็นการกล่าวถึงลักษณะแข็ง โดยรู้ว่าแข็งธรรมดาๆ ถามเด็ก เด็กก็บอกว่าแข็ง ไม่ได้หมายความว่า เด็กคนนั้นมีสติ ถามเขาเดี๋ยวนี้เขาก็ตอบได้ แต่ผู้ที่จะอบรมเจริญสติปัฏฐาน ที่จะเข้าใจเรื่องสติปัฏฐานจากการฟังแล้ว ผู้นั้นจะรู้ว่า ลักษณะของสติที่เกิด คือ ขณะที่กำลังระลึกตรงลักษณะนั้น เพราะมีลักษณะปรมัตถธรรม แล้วเริ่มเข้าใจหรือรู้ในสภาพที่เป็นปรมัตถธรรมทีละเล็กทีละน้อย เพราะเหตุว่าขณะนั้นมีธรรม ๒ อย่าง คือ นามธรรมอย่างหนึ่ง กับรูปธรรมอย่างหนึ่ง ซึ่งเราได้ยินได้ฟังบ่อยที่สุดเลย แต่การรู้ในขณะที่สติกำลังระลึก ค่อยๆ เป็นไปเรื่อยๆ
เพราะฉะนั้น สติปัฏฐานไม่ได้แยกจากชีวิตประจำวัน เพราะเหตุว่าชีวิตประจำวันเป็นปรมัตถธรรม เป็นสภาพธรรม แต่ปกติไม่รู้ และสติไม่ระลึก แต่เมื่อฟังพระธรรมแล้ว สติเริ่มจะเกิดบ้าง ส่วนใหญ่จะไม่มาก แต่เริ่มรู้ว่า ลักษณะของสติคือขณะที่ระลึกตรงปรมัตถธรรม และเริ่มค่อยๆ เข้าใจ