ปัจจัยที่ ๒ อารัมมณปัจจัย


    ปัจจัยที่ ๒คือ อารัมมณปัจจัย

    โลกนี้เกิดขึ้นเป็นไปแล้วมีภพมีชาติสืบต่อไปเรื่อย ๆ เพราะยังไม่ได้ดับเหตุ เพราะยังมีเห-ตุปัจจัย เป็นปัจจัยที่สำคัญ เป็นปัจจัยแรกที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง แต่ปัจจัยที่ ๒ ที่สำคัญ คือ อารัมมณปัจจัย ได้ยินได้ฟังบ่อยใช่ไหมคะ อารมณ์คือ สิ่งที่จิตรู้ สิ่งที่จิตกำลังรู้ ทางตาสิ่งที่กำลังปรากฏเป็นอารมณ์ของจักขุวิญญาณที่เห็น ทางหู เสียงที่กำลังปรากฏเป็นอารมณ์ของโสตวิญญาณที่กำลังได้ยิน

    แล้วในวันหนึ่ง ๆ นี้ ทุกท่านปรารถนาอารมณ์ต่าง ๆ ทางตาก็ต้องการเห็นสิ่งต่าง ๆ

    ทางหูก็ต้องการอยู่เรื่อย ๆ ที่จะได้ยินเสียงต่าง ๆ ทางจมูกก็ต้องการอยู่เรื่อย ๆ ที่จะได้กลิ่นต่าง ๆ ทางลิ้น อร่อยอีกแล้วใช่ไหมคะ ต้องการที่จะได้รสต่าง ๆ ทางกายก็ต้องการที่จะกระทบสัมผัสต่าง ๆ ทางใจก็คิดนึกอยู่เสมอด้วยความต้องการ แม้จะไม่รู้ว่าในขณะที่เพียงคิดก็เป็นโลภมูลจิตแล้วที่คิด อย่าลืม โลภมูลจิตเป็นประจำ ไม่ว่าจะทางตาทางหู ทางจมูก ทางลิ้นทางกาย หรือแม้ไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน ไม่ได้กลิ่น ไม่ได้ลิ้มรส ไม่รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส แต่ทางใจคิดขณะใด ถ้าขณะนั้นไม่ใช่กุศลประเภทหนึ่งประเภทใดทั้งทาน ศีล หรือความสงบของจิต หรือสติปัฏฐาน ให้ทราบว่าขณะนั้นเป็นโลภมูลจิต ยินดีในอารมณ์ที่กำลังปรากฏในขณะที่คิด

    ทุกท่านคิดเรื่องที่ท่านต้องการหรือเปล่าคะ ไม่ทราบเลยว่า เพราะต้องการจึงคิดเรื่องนั้น ถูกไหมคะ โดยทั่วไปในวันหนึ่ง ๆ ถ้าในขณะนั้นไม่ใช่โทสมูลจิตที่คิด ก็ต้องเป็นโลภมูลจิตให้เห็นความเกิดขึ้นบ่อย ๆ เนือง ๆ เพราะว่าทุกท่านคิดเนือง ๆ บ่อย ๆ ด้วยโลภมูลจิตซึ่งเป็นเหตุ แต่ว่าเหตุนั้นเองปรารถนาซึ่งอารมณ์ เพราะเหตุว่าโลภะเป็นสภาพที่ยินดีต้องการอารมณ์ต่าง ๆทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกายทางใจ

    ผัสสะเป็นสภาพธรรมที่มีจริงเป็นอารัมมณปัจจัยให้เกิดจิตและเจตสิกที่กำลังรู้ผัสสะได้ไหมคะ

    การศึกษานี้พิจารณาในเหตุผล ถ้าเหตุผลถูก ตรวจสอบได้กับพระไตรปิฎก แต่ถ้าเหตุผลไม่ถูก กลับไปตรวจสอบกับพระไตรปิฎกไม่ตรง

    เพราะฉะนั้นอารัมมณปัจจัย หมายความถึงสิ่งซึ่งเป็นอารมณ์ เป็นปัจจัยให้เกิดจิตและเจตสิกซึ่งกำลังรู้อารมณ์นั้น หรืออีกนัยหนึ่ง จิตและเจตสิกกำลังรู้สิ่งใด สิ่งนั้นเป็นปัจจัยโดยเป็นอารมณ์ เป็นอารัมมณปัจจัยให้แก่จิตที่กำลังรู้อารมณ์นั้น

    เพราะฉะนั้นอารัมมณปัจจัยก็ไม่ใช่อื่นไกลจากสิ่งซึ่งกำลังเป็นอารมณ์ เพราะเหตุว่าสิ่งใดที่จิตกำลังรู้ สิ่งนั้นเป็นปัจจัยให้เกิดจิตนั้นโดยเป็นอารมณ์ของจิตนั้น


    หมายเลข 2110
    29 ส.ค. 2558