มรรคมีองค์ ๘ กับ สติปัฏฐาน
ข้อความละเอียดที่จะค่อยๆ พิจารณาไปทีละขั้นมีอยู่พร้อมสมบูรณ์ในพระไตรปิฎกทั้ง ๓ ปิฎก และไม่ควรจะข้ามพยัญชนะด้วย อย่างข้อที่ว่า หนทางนี้เป็นหนทางอันเอก คือ การเจริญสติปัฏฐาน บางท่านสงสัยว่า การเจริญสตินี้เป็นมรรคมีองค์ ๘ ใช่ไหม คือ ยังคิดว่ามรรคมีองค์ ๘ กับสติปัฏฐานนั้นแยกกัน แต่ความจริงไม่แยกกันเลย
การที่มีสติเกิดขึ้นรู้ลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏ ปัญญาเพิ่มขึ้นทีละเล็กทีละน้อยเป็นการเจริญมรรคที่จะทำให้รู้แจ้งอริยสัจจธรรม เพราะเหตุว่า การรู้แจ้งอริยสัจจธรรม นั้นก็คือ การรู้แจ้งสภาพลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏตามปกติตามความเป็นจริง ไม่ใช่รู้อย่างอื่น มีท่านผู้ใดที่คิดว่าจะเป็นการรู้อย่างอื่นนอกจากที่กำลังเห็น กำลังได้ยิน กำลังคิดนึกเหล่านี้ไหม เพราะเหตุว่าบางท่านนั้นคิดว่า การรู้แจ้งอริยสัจจ์นั้นรู้อย่างอื่น แต่ขอให้คิดว่า สิ่งที่กำลังปรากฏชัดทางตา คือ กำลังเห็นในขณะนี้ ไม่ใช่เมื่อวานนี้ ไม่ใช่ขณะอื่น หรือขณะที่กำลังได้ยิน หรือเสียงที่กำลังปรากฏ ชัดเจนด้วยสติสัมปชัญญะปกติบริบูรณ์ในขณะนี้ทั้งทางตา ทางหู ทางจมู ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ ถ้าปัญญาไม่รู้ลักษณะของสิ่งที่กำลังประจักษ์ แก่ตา แก่หู แก่จมูก แก่ลิ้น แก่กาย แก่ใจ ในขณะนี้แล้ว จะมีปัญญาไปรู้อะไร นี่เป็นสิ่งที่สำคัญมากเพราะบางท่านข้ามไป ไม่พิจารณาที่กำลังเห็น แล้วเมื่อไหร่ปัญญาจะรู้ลักษณะของเห็นกับสีที่กำลังปรากฏ ไม่พิจารณาลักษณะที่ได้ยินกับเสียง แล้วเมื่อไหร่จะรู้ชัดในลักษณะของได้ยินกับเสียงซึ่งปรากฏชัดเป็นปกติ เป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครเลย เพราะฉะนั้นถ้าไม่มีปัญญาที่จะรู้ความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริงตามปกติด้วยสติสัมปชัญญะอย่างนี้ จะมีปัญญารู้อะไรได้