พระสุเมธะ และ พระสุชาตพุทธเจ้าทรงพยากรณ์พระโพธิสัตว์


    ในกาลต่อจากพระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระพระองค์นั้นมา ล่วงไปสามหมื่นกัป ในกัปเดียวกันพระพุทธเจ้าบังเกิดขึ้น ๒ พระองค์ คือ พระพุทธเจ้าพระนามว่าสุเมธะ ๑ พระพุทธเจ้าพระนามว่าสุชาตะ ๑

    ในกาลแห่งพระสุเมธพุทธเจ้านั้น พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นมาณพนามว่า อุตตระ สละทรัพย์เฉพาะที่ฝังเก็บไว้ถึงแปดสิบโกฏิ ถวายมหาทานแก่พระภิกษุสงฆ์มีองค์พระพุทธเจ้าเป็นประธาน ฟังพระธรรมแล้ว ดำรงอยู่ในไตรสรณคมน์ แล้วออกบวช แม้พระพุทธเจ้าพระนามว่าสุเมธะพระองค์นั้นก็ได้ทรงพยากรณ์พระโพธิสัตว์นั้นเป็นครั้งที่ ๑๑ ว่า จักเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล

    ฟังแล้ว ท่านผู้ฟังสงบไหม ระลึกถึงพระคุณหรือเปล่าในขณะนี้ พุทธานุสสติ สภาพธรรมของจิตในขณะนี้ สามารถที่จะพิจารณารู้ได้ว่า สงบหรือไม่สงบ ความสงบจึงจะเจริญขึ้น ในขณะที่ฟัง เข้าใจ และเห็นพระคุณ

    ข้อความต่อไปมีว่า

    ในกาลต่อจากพระพุทธเจ้าพระนามว่าสุเมธพระองค์นั้นมา พระศาสดา พระนามว่า สุชาตะ ก็ทรงอุบัติขึ้น ในกาลนั้นพระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ทรงสดับว่า พระพุทธเจ้าทรงอุบัติขึ้นแล้ว จึงเสด็จเข้าไปเฝ้า ฟังพระธรรม แล้วพระราชทานราชสมบัติในมหาทวีปทั้ง ๔ พร้อมทั้งรัตนะ ๗ ประการแก่พระภิกษุสงฆ์มีองค์พระพุทธเจ้าเป็นประธาน แล้วทรงผนวชในสำนักพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น แม้พระศาสดาพระนามว่าสุชาตะพระองค์นั้นก็ได้ทรงพยากรณ์พระโพธิสัตว์นั้นเป็นครั้งที่ ๑๒

    ที่มา ...

    แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 738

    แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 739


    หมายเลข 2241
    31 ธ.ค. 2566