ทำตามโลภะ ทำไมมันถึงทำตามได้ง่าย


    ผู้ฟัง เข้าใจว่า ทุกคนยังไม่ทราบความจริงว่า ทุกข์ธรรมดาที่เราได้รับกับทุกข์ของอริยสัจต่างกัน ทุกคนมักจะนำมารวมกัน หรือไม่เข้าใจโดยละเอียด ขอให้ท่านอาจารย์กรุณาอธิบายอีกครั้ง

    ท่านอาจารย์ โดยมากเราจะรู้ทุกข์ ต่อเมื่อเราประสบกับสิ่งที่เราไม่ชอบหรือไม่พอใจทั้งหมดเลย เป็นต้นว่าความรู้สึกไม่สบาย ขณะนั้นเป็นความรู้สึกที่เราไม่ชอบ เราก็กล่าวว่าเป็นทุกข์ หรือว่าร่างกายที่เกิดปวดเมื่อยเจ็บ เราก็บอกว่าเป็นทุกข์ เรารู้จักแต่ทุกข์ทั่วๆ ไปอย่างนี้ แต่ถ้าเป็นทุกขอริยสัจแล้วหมายถึงสภาพธรรมที่เกิดดับ ทุกอย่างที่เกิดแล้วดับเป็นทุกข์ทั้งนั้น

    เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นสุขเวทนาก็เป็นทุกข์ เพราะว่าสุขเวทนาก็ดับ และถ้าประจักษ์การเกิดขึ้น และดับของสุขเวทนาจริงๆ จะรู้เลยว่า ชั่วระยะเวลาที่แสนสั้นนิดเดียวแล้วก็หมดไป อย่างนั้นหรือที่เรียกว่าถาวรหรือเป็นสุขจริงๆ หรือว่าการเกิดขึ้นปรากฏเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง ต้องเป็นอย่างนั้น

    เพราะฉะนั้น แม้แต่สุขก็คือทุกข์ เพราะเหตุว่าเกิดดับเหมือนกัน ธรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นที่เป็นสังขารธรรมมีไตรลักษณะ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา สภาพไม่เที่ยงนั้นเองเป็นทุกข์ แล้วก็เป็นอนัตตา เพราะบังคับบัญชาไม่ได้

    ทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่มีอะไรเลยที่เที่ยง หมดทุกอย่างที่เกิดแล้วไม่ดับนั้นไม่มี แต่ไม่รู้ เพราะว่ามีสภาพธรรมอื่นสืบต่อทันที อย่างในขณะนี้ทางตาที่เห็นก็มีจิตอื่นเกิดดับสืบต่อจนกระทั่งเป็นภวังคจิต จนกระทั่งถึงมโนทวารวิถีจิตวาระต่อไปกว่าจะเห็นเป็นคน หรือเป็นวัตถุสิ่งของต่างๆ แต่ว่าแต่ละขณะนั้นเกิดแล้วดับ

    เพราะฉะนั้น ในขณะนี้เองสภาพธรรมก็กำลังเกิดดับอย่างเร็วมาก ซึ่งจะต้องประจักษ์ ถ้าไม่ประจักษ์ จะไม่เห็นว่าเป็นทุกข์ ก็จะเห็นแต่ทุกขเวทนา แต่ไม่รู้ทุกขลักษณะ แต่ทั้งๆ ที่ประจักษ์การเกิดขึ้น และดับไป ตราบใดที่ยังไม่ถึงมรรคจิต ผลจิต ก็ยังไม่รู้แจ้งพระนิพพาน และยังไม่สามารถดับกิเลสใดๆ ได้ ทั้งๆ ที่เกิดดับ ก็เกิดอีก

    อย่างเวลานี้ก็แสนจะจริง ใช่ไหมคะ ทุกคนก็ยอมรับ ก็เบิกบาน ได้ยินก็ดับ ทุกคนก็เบิกบาน ก็ไม่มีใครเห็นว่าเป็นทุกข์จริงๆ เพราะเหตุว่าอย่างอื่นเกิดต่อ ก็เลยไม่เดือดร้อนจริงๆ กับสิ่งที่เกิดแล้วดับแล้ว


    หมายเลข 2260
    28 ก.ค. 2567