ปฏิบัติธรรมเพื่อประโยชน์อะไร


    ผู้ฟัง การปฏิบัติธรรม ทำไปเพื่ออะไร ทำไปเพื่อใคร แล้วทำไปแล้วจะได้อะไร

    ท่านอาจารย์ ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า ปฏิบัติธรรมคืออะไร ถ้ายังไม่เข้าใจปฏิบัติธรรม สิ่งต่างๆ ที่ทำกันไปก็ไม่มีประโยชน์

    เพราะฉะนั้น ขอเรียนถามเป็นข้อๆ เป็นเรื่องๆ เป็นเหตุการณ์ ที่ปฏิบัติธรรมในที่นี่หมายความว่าอย่างไร ทำอย่างไร ที่ไหน ที่ใช้คำว่า ปฏิบัติธรรม ทุกอย่างจะเลื่อนลอยไม่ได้ ทุกอย่างต้องเข้าใจชัดเจนถูกต้อง แม้แต่คำว่า ปฏิบัติธรรม ถ้าคนนั่งหลับตาแล้วเขาบอกว่า ปฏิบัติธรรม เชื่อไหมคะ พอเขาบอกว่า ปฏิบัติ เราก็ปฏิบัติไปด้วย อย่างนั้นหรือคะ แล้วไม่มีเหตุผลเลย เห็นเขานั่งจ้องดินสีอรุณ แล้วเขาบอกว่า ปฏิบัติธรรม แล้วเราจะเชื่อหรือคะว่า นั่นคือปฏิบัติธรรม

    พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่พระผู้มีพระภาคทรงตรัสรู้ และทรงแสดง เพราะฉะนั้น ทรงพระมหากรุณาให้ผู้ฟัง ผุ้ศึกษาเกิดปัญญาของตนเอง นี่คือพระคุณสูงสุดที่ทำให้ผุ้มีอวิชชา ความไม่รู้ เกิดวิชชา ความรู้ขึ้น ไม่หลง ไม่งมงาย ไม่ตื่นเต้นในข่าวต่างๆ

    เพราะฉะนั้น แม้แต่คำว่า “ปฏิบัติธรรม” ก็ต้องเข้าใจให้ถูกต้องด้วย ถ้ามีคนนั่งหลับตาแล้วบอกว่า ปฏิบัติธรรม แล้วเราจะบอกว่า ปฏิบัติธรรม ใครๆ ก็บอกว่า ปฏิบัติธรรม ก็เป็นสิ่งที่เหลวไหล เพราะเหตุว่ายังไม่เข้าใจเลยว่า ปฏิบัติธรรมจริงๆ นั้นคืออะไร ต่อเมื่อใดเข้าใจแล้วจึงรู้ว่า ปฏิบัติหรือไม่ใช่ปฏิบัติ แล้วปฏิบัตินั้นเป็นธรรมหรือไม่เป็นธรรม ขึ้นอยู่กับความเข้าใจ

    ขณะที่ท่านพระสารีบุตรฟังธรรมจากท่านพระอัสสชิ ปฏิบัติธรรมหรือเปล่าคะ ท่านพระอัสสชิกำลังเดินบิณฑบาต แล้วท่านพระสารีบุตรเห็นว่าพระภิกษุรูปนี้มีกิริยาที่เป็นสมณะจริงๆ ธรรมของท่านต้องเป็นธรรมที่น่าเลื่อมใส เพราะเหตุว่าท่านจึงได้ติดตามท่านพระอัสสชิไป และขอให้ท่านพระอัสสชิแสดงธรรม ในขณะที่ท่านพระสารีบุตรฟังธรรมจากท่านพระอัสสชิ ท่านพระสารีบุตรปฏิบัติธรรมหรือเปล่าคะ เพราะเมื่อจบคำสั้นๆ ท่านพระสารีบุตรรู้แจ้งอริยสัจธรรมเป็นพระโสดาบัน เพราะฉะนั้น ในขณะที่กำลังฟังนั้น ท่านพระสารีบุตรปฏิบัติธรรมหรือเปล่า

    ไม่มีคำตอบหรือคะ จะได้เข้าใจคำว่า ปฏิบัติธรรม ไงคะ ไม่อย่างนั้นก็ไม่เข้าใจ ลองคิดถึงท่านพระสารีบุตรกำลังฟังท่านพระอัสสชิ ท่านปฏิบัติธรรมหรือเปล่า เพราะพอจบคาถาสั้นๆ ท่านพระสารีบุตรรู้แจ้งอริยสัจธรรม เป็นพระโสดาบัน ขณะนั้นที่กำลังฟังปฏิบัติธรรมหรือเปล่า ปฏิบัติค่ะ

    เพราะฉะนั้น ปฏิบัติ ไม่ใช่เรานั่งหลับตา ไม่ใช่เราเดินทำอาการที่ผิดปกติ แต่ขณะใดที่ปัญญาเกิดพร้อมสติที่ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมด้วยความเข้าใจจนประจักษ์แจ้งในการเกิดดับ

    เพราะฉะนั้น ขณะนี้หรือขณะไหน ทุกขณะ สติปัญญาเกิดขณะใด สติปัญญาปฏิบัติกิจของสติปัญญา คือระลึกแล้วค่อยๆ เข้าใจ ค่อยๆ เข้าใจ สะสมไป จนกว่าจะถึงเวลารู้แจ้งอริยสัจธรรม ซึ่งจะเป็นขณะไหนก็ได้ ขณะที่วัวขวิดก็ได้ ขณะไหนก็ได้ทั้งนั้น เพราะในขณะนี้สภาพธรรมก็เป็นของจริงซึ่งกำลังเกิดดับ เป็นอริยสัจธรรม คือบุคคลในประจักษ์แจ้งความจริงของสภาพธรรมนี้ บุคคลนั้นก็เป็นพระอริยบุคคล เป็นผู้เจริญจริงๆ เพราะเหตุว่าเจริญจากอวิชชาสู่วิชชา สามารถรู้สภาพธรรมได้

    เพราะฉะนั้น ถ้าเข้าใจผิดว่า ปฏิบัติธรรมจะเป็นอย่างอื่น


    หมายเลข 2265
    28 ก.ค. 2567