สติระลึกรู้แข็ง กับ สัญญาที่รู้แข็งด้วยตัวตนต่างกัน


    ท่านอาจารย์ สัญญาที่เคยจำว่ามีเรา และขณะที่กำลังจำว่าแข็ง ต่างกันหรือเหมือนกัน เวลาที่สติสัมปชัญญะระลึกที่แข็ง กับสัญญาความจำว่าเป็นเราทั้งตัว เหมือนกันหรือต่างกัน กำลังรู้แข็งจะมีตัวได้ไหม นั่นก็คือเพราะสติสัมปชัญญะเกิด สติจึงได้รู้ลักษณะของสภาพธรรม ซึ่งไม่รวมกัน ไม่ใช่เป็นท่าทาง หรือว่าเป็นอิริยาบถ แต่ว่าเป็นลักษณะของรูปแต่ละรูป

    ผู้ฟัง ถึงเขาจะทำอิริยาบถ แต่ถ้าเขาได้ศึกษาเรื่องสติปัฏฐาน สติปัฏฐานก็สามารถเกิดได้ในขณะที่อิริยาบถ ของ ...

    ท่านอาจารย์ ขณะนี้กำลังทำอะไรอยู่ เดี๋ยวนี้ นั่ง ถ้าสติสัมปชัญญะเกิด ก็ระลึกลักษณะของสภาพธรรมที่มี มีอิริยาบถไหม ถ้ากำลังรู้แข็ง

    ผู้ฟัง ไม่มี

    ท่านอาจารย์ นั่นคือเพิก ถ้าสติปัฏฐานเกิดเป็นปกติ ไม่มีการทำ ต้องเข้าใจด้วย สติปัฏฐานเกิดคือเป็นปกติ ถ้าทำนั่นคือไม่ปกติ แต่ถ้าเขาเข้าใจเรื่องสติปัฏฐาน แล้วเขาไปเดิน คนเราก็เดินอยู่แล้ว นั่งอยู่แล้ว ปกติอยู่แล้ว ไปเดินอะไร

    ผู้ฟัง เดินจงกรม

    ท่านอาจารย์ จงกรมคืออะไร

    ผู้ฟัง จงกรมเพื่อที่จะออกกำลังกาย

    ท่านอาจารย์ ต้องเข้าใจก่อน แล้วทำไม เราออกกำลังกาย ก็บอกไปสิว่ากำลังออกกำลังกาย ทำไมต้องบอกว่าจงกรม ทุกอย่างต้องชัดเจน

    ผู้ฟัง ถ้าชัดเจน ก็ไม่เข้าใจ คำว่าจงกรม

    ท่านอาจารย์ ปกติทำอะไรบ้าง ไม่เข้าใจแล้วจะไปทำสิ่งที่ไม่เข้าใจ แล้วจะเกิดประโยชน์อะไร ถ้าทำในสิ่งที่ไม่เข้าใจ ไม่มีเขา ไม่มีใคร แต่มีชีวิตประจำวันเป็นปกติ สำหรับผู้ที่อบรมเจริญสติปัฏฐาน ผู้ที่มีปัญญาเข้าใจหนทางนี้โดยถูกต้อง ได้ฟังพระธรรมว่า ธรรมทั้งหลายมีเหตุปัจจัยเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นไม่ใช่เรา ถ้าเข้าใจอย่างนี้ ก็จะรู้ว่าแต่ละชีวิตในแต่ละวัน ก็มีปัจจัยเกิดขึ้นต่างๆ ชีวิตของเราจะเหมือนกันไหม แม้ว่าจะอยู่บ้านเดียวกันปัจจัยที่จะทำให้มีการเคลื่อนไหว คนนั้นอยู่ในครัว คนนี้อยู่หน้าบ้าน คนนั้นกำลังเปิดวิทยุ คนนี้กำลังอ่านหนังสือ ก็แล้วแต่เหตุปัจจัย ว่ามีปัจจัยที่ทำให้ชีวิตประจำวันเป็นปกติเป็นอย่างไร นั่นคือผู้ที่เข้าใจความเป็นจริงว่าธรรมเป็นธรรม ไม่มีเรา แต่ว่ามีปัจจัยที่จะทำให้ธรรมเกิดขึ้น ทั้งนามธรรม และรูปธรรม เพราะฉะนั้นถ้าเข้าใจอย่างนี้ จะไม่มีการทำสิ่งที่ผิดปกติ

    เพราะฉะนั้นการฟังเรื่องการเจริญสติปัฏฐาน เพื่อให้เป็นปกติ ไม่ต้องไปทำอะไร เพราะว่าปกติจะมีความเป็นเราซึ่งทำ แม้แต่สติสัมปชัญญะก็จะทำ อดทำไม่ได้ นั่นคือความเป็นเรา เพราะฉะนั้นฟังเพื่อที่จะไม่มีเราที่ทำ เพราะว่าเข้าใจถูกต้อง แม้ในขั้นการฟังว่าเป็นธรรม ซึ่งเกิดเพราะเหตุปัจจัย

    ผู้ฟัง ฟังจนกว่าสติจะเกิด

    ท่านอาจารย์ ถูกไหม ถ้าถูก ก็คือถูก


    หมายเลข 2286
    7 ต.ค. 2567