จะรู้รูปขันธ์ได้ก็ต่อเมื่อสติสัมปชัญญะเกิด


    ผู้ฟัง พระพุทธเจ้าทรงแสดงเรื่องของขันธ์ ๕ ว่ารูปขันธ์ มีลักษณะทั้งหมด ๑๑ ประการ เรื่องใกล้ ไกล ภายใน ภายนอก อะไรต่างๆ ซึ่งพระพุทธองค์ทรงแสดง ถ้าเรายังไม่รู้จักลักษณะ ๑๑ ประการนี้ หรือรู้ไม่ทั่ว โอกาสที่สติสัมปชัญญะจะระลึกที่รูป ที่ปรากฏทางปัญจทวาร ได้ไหม

    ท่านอาจารย์ จริงๆ แล้ว การที่จะรู้ลักษณะของรูปขันธ์แต่ละอย่าง ก็เมื่อสติสัมปชัญญะเกิดเท่านั้น

    ผู้ฟัง ถ้ายังไม่เกิด จะไม่รู้ลักษณะจริงๆ ของรูป

    ท่านอาจารย์ ยังไม่เกิด ก็ฟังแล้วก็เทียบเคียงได้ เช่นเสียง ขณะนี้ได้ยินเสียงอะไรไหม
    ผู้ฟัง ได้ยิน
    ท่านอาจารย์ กี่เสียง
    ผู้ฟัง หลายเสียง

    ท่านอาจารย์ เหมือนกันหรือเปล่า
    ผู้ฟัง ไม่เหมือนกัน

    ท่านอาจารย์ ไม่เหมือนใช่ไหม เสียงที่น่าฟังก็มี ไม่น่าฟังก็มี หยาบก็มี ละเอียดก็มี เลวก็มี ปราณีตก็มี ไกลก็มี ใกล้ก็มี ภายในก็มีภายนอกก็มี คือเมื่อไรที่สติสัมปชัญญะเกิด จะเข้าใจอรรถของคำว่าขันธ์ที่ทรงแสดงไว้ ว่าหลากหลายเป็นประการต่างๆ แต่ถ้าสติสัมปชัญญะไม่เกิดก็นั่งจำ ว่าขันธ์ภายใน ภายนอก หยาบ ละเอียด ใกล้ ไกล เลว ประณีต แต่ว่าเมื่อไหร่ที่สติสัมปชัญญะเกิด หนึ่งรูปที่ปรากฎก็จะมีลักษณะอย่างหนึ่ง ขณะที่สติสัมปชัญญะระลึกรูปต่อไปก็ไม่เหมือนกันแล้ว ต่างกันแล้ว นั่นก็คือความหมายของขันธ์ แล้วก็เกิดขึ้น แล้วก็ดับไป ไม่ใช่ว่ามีอยู่ตลอดเวลา นั่นก็คือความหมายของขันธ์ เมื่อสติสัมปชัญญะเกิด ก็จะเข้าใจอรรถนั้นๆ

    เพราะฉะนั้นสิ่งทั้งหมดที่ได้ฟัง จะเข้าใจจริงๆ เมื่อสติสัมปชัญญะเกิด แล้วก็กำลังรู้ลักษณะของสภาพธรรมนั้น ก็ตรงตามที่ได้ฟังทุกอย่าง

    ผู้ฟัง ในขณะที่สติสัมปชัญญะยังไม่เกิด คือฟังเรื่องของรูปขันธ์
    ท่านอาจารย์ ก็เข้าใจ
    ผู้ฟัง ก็ยังไม่รู้ความจริงของรูปขันธ์ ว่าลักษณะของรูปที่ปรากฏทางปัญญจทวาร เรายังไม่รู้ความจริง ก็ลำบาก

    ท่านอาจารย์ ก็ขั้นฟัง ขั้นคิด อย่างเสียงเดี๋ยวนี้ ก็ไม่เหมือนเสียงเมื่อกี้นี้แล้ว นี่ก็คือความหมายของขันธ์ เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป และลักษณะของเสียงก็ต่างๆ กันไป


    หมายเลข 2289
    4 ต.ค. 2567