ปัญญาเกิด สติระลึกรู้ได้


    เพราะเหตุว่าเกิดดับสลับกันเร็วมาก แม้แต่ในขณะนี้เองก็เหมือนเห็นกับได้ยินพร้อมกัน แต่เมื่อไม่ใช่ได้ยิน ขณะนั้นเป็นปัญญา จิตอีกขณะหนึ่งแทนจิตเห็นเดี๋ยวนี้ได้ ถ้าขณะนี้เห็นว่ามีทั้งเห็นและได้ยิน ถ้าขณะที่ปัญญาเกิดแทนได้ยิน กำลังระลึกที่เห็นได้ หรือว่าปัญญาเกิดระลึกรู้สภาพที่ได้ยินแทนเห็นได้ ปัญญาต้องรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนี้ตามปกติตามความเป็นจริง ต้องทราบว่าขณะนี้เป็นธรรมทั้งหมด ไม่มีตัวตน เป็นแต่เพียงธาตุ เป็นแต่เพียงสภาพธรรมที่เกิดแล้วก็ดับ เกิดแล้วก็ดับ แต่ว่าการเกิดดับนั้นรวดเร็วมาก จนกระทั่งเมื่อไม่ประจักษ์การเกิดดับ ก็มีการจดจำสิ่งที่ปรากฏซึ่งเหมือนไม่ดับว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด

    เพราะฉะนั้นปัญญาที่เป็นโลกียะต้องประจักษ์ความจริงของโลก คือ สภาพธรรมที่เกิดในขณะนี้แล้วดับในขณะนี้ นั้นจึงจะเป็นปัญญาในพระพุทธศาสนา ซึ่งเริ่มจากปัญญาขั้นฟัง ตลอด ๔๕ พรรษาที่ทรงแสดงพระธรรม ก็เพื่อที่จะให้พุทธบริษัทได้ฟังพระธรรมที่ทรงตรัสรู้


    หมายเลข 2339
    26 ส.ค. 2558