กรรม ๑๒ (๑) กรรมได้มีแล้ว ผลของกรรมได้มีแล้ว
โดยนัยของพระสุตตันตปิฎก ตามข้อความในมโนรถปูรนี อรรถกถา อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต ปฐมปัณณาสก์ วรรคที่ ๔ นิทานสูตร ซึ่งได้แสดงกรรม ๑๑ คือ แสดงโดยกาลของการให้ผล ๓ ได้แก่
ทิฏฐธัมมเวทนียกรรม คือ กรรมที่ให้ผลในปัจจุบันชาติ ๑
อุปปัชชเวทนียกรรม กรรมที่ให้ผลในชาติต่อไป ๑
และอปรปริยายเวทนียกรรม คือ กรรมที่ให้ผลในชาติต่อๆ ไปนั้นอีก ตราบใดที่สังสารวัฏฏ์ยังไม่สิ้น ๑
ซึ่งข้อความเรื่องของกรรมอื่น จะไม่ใช่กรรม ๑๑ แต่เป็นกรรม ๑๒ โดยกล่าวถึงอีกกรรมหนึ่ง คือ อโหสิกรรม ซึ่งข้อความในมโนรถปุรนี โดยปริยายแห่งปฏิสัมภิทามรรค ท่านพระสารีบุตรจำแนกกรรม แม้อย่างอื่นไว้ ๑๒ ประการ มีข้อความว่า
๑. อโหสิ กมฺมํ อโหสิ กัมมวิปาโก กรรมได้มีแล้ว ผลของกรรมได้มีแล้ว
นี่เป็นเรื่องที่ทุกท่านจะพิจารณาชีวิตของท่านอย่างละเอียดทีเดียวว่า ที่ยังต้องมีการเกิด แล้วก็ยังไม่จุติ ยังมีการเห็น การได้ยิน มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นในชีวิตอยู่ทุกขณะ แต่ละขณะ ล่วงไปๆ ๆ โดยขณะๆ เรื่อยๆ ก็เพราะเหตุว่ามีกรรมนั่นเองยังเป็นปัจจัยอยู่ และในสังสารวัฏฏ์ที่ยาวนาน แม้พระผู้มีพระภาคเองในคืนที่จะตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ จะได้ทรงระลึกชาติสักเพียงใดตลอดปฐมยาม ก็ไม่สามารถที่จะจบสิ้นได้
เพราะฉะนั้นก็แสดงให้เห็นว่าสังสารวัฏฏ์ที่ผ่านมาแล้วยาวนานมาก และในชาตินี้ก็จะเป็นชาติหนึ่งซึ่งใกล้จะจบสิ้นส่วนหนึ่งของสังสารวัฏฏ์ ซึ่งยังจะต้องมีการเกิด เพราะมีกรรมที่ยังไม่ได้ให้ผลอีกมากทีเดียวที่จะทำให้สังสารวัฏฏ์ยืดยาวอีกต่อไปนับไม่ถ้วน
ตราบใดที่ยังไม่รู้แจ้งอริยสัจธรรม ยังไม่ใช่พระโสดาบัน การเกิดต้องมีอีกมากมาย เมื่อไรเป็นพระโสดาบันบุคคล เมื่อนั้นการเกิดจึงจะยังมีอยู่อีกอย่างมากที่สุด ๗ ชาติ
เพราะฉะนั้นก็ควรจะทราบเรื่องความสลับซับซ้อน ความมากมายของกรรมในสังสารวัฏฏ์ ซึ่งยังติดตามให้ผลแม้ในปัจจุบันชาตินี้ได้ โดยที่บุคคลหนึ่งบุคคลใดไม่สามารถที่จะรู้ได้เลยว่า แต่ละเหตุการณ์ที่เกิดกับท่าน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายกุศลวิบากหรืออกุศลวิบากนั้น เป็นผลของกรรมใดในชาติใด เพราะเหตุว่าแม้ในชาตินี้เอง แต่ละท่านก็ต่างได้ทำกรรมไม่น้อยเลย ทั้งที่เป็นกุศลกรรม และอกุศลกรรม เฉพาะในชาตินี้ชาติเดียว เมื่อรวมในชาติก่อนๆ ย้อนไป ย้อนๆ ๆ ไปอีก ก็จะเห็นได้ว่ากรรมยังมีอีกมากมายเหลือเกินที่จะทำให้สังสารวัฏฏ์ยาวนานต่อไป
เพราะฉะนั้น อโหสิ กมฺมํ อโหสิ กมฺมวิปาโก ได้แก่ กรรมได้มีแล้ว คือ ได้กระทำแล้ว ผลของกรรมได้มีแล้ว หมายความว่า กรรมในสังสารวัฏฏ์ที่ได้ทำแล้ว ก็ได้ให้ผลไปแล้ว ก็มี ไม่ใช่ว่าไม่ได้ให้ผลไปเลย แต่ในสังสารวัฏฏ์ที่ยาวนาน กรรมที่ได้ทำแล้ว จริง และผลของกรรมก็ได้มีแล้วด้วย หมดไปแล้วกรรมนั้น อย่างหนึ่ง คือ เป็นอโหสิกรรม เพราะเหตุว่ากรรมได้มีแล้ว และผลของกรรมได้มีแล้วด้วย