การปฏิบัติธรรมที่ถูกต้องในพระพุทธศาสนา
อ.กุลวิไล ขอให้ อ.อรรณพ ช่วยให้ความหมายของการปฏิบัติธรรมเพราะว่าในยุคนี้ก็ยังมีผู้ที่สนใจที่ในเรื่องของการปฏิบัติธรรมอยู่ ท่านผู้ร่วมสนทนาที่มาใหม่ในห้องนี้ ก็คงผ่านการปฏิบัติมากมาย ก็ควรทำความเข้าใจว่า การปฏิบัติธรรมที่ถูกต้องในทางพุทธศาสนานั้นเป็นอย่างไร
อ.อรรณพ โดยทั่วไปเมื่อเราได้ยินคำว่าปฏิบัติ ก็คือทำ หรือว่าจะต้องมีวิธีการหนึ่ง วิธีการใด ตามความเข้าใจที่เราเข้าใจกัน อยู่เป็นพื้นฐาน แต่จริงๆ แล้ว ในเรื่องของการเข้าใจธรรม เป็นเรื่องที่ไม่เหมือนกับความเข้าใจในศาสตร์ทางโลก หรือว่ากรรมวิธีต่างๆ ที่เราต้องทำในทางโลก จริงๆ แล้วคำว่าปฏิบัติ หรือ ปฏิปัตติ แปลว่า ถึงเฉพาะ ปตฺติ แปลว่าถึง ปฎิ ซึ่งเป็นคำข้างหน้า แปลว่า เฉพาะ ถึงเฉพาะ หมายความว่าอย่างไร ก็มีหลายระดับ ซึ่งจุดสูงสุดของพระพุทธศาสนา ก็คือเพื่อการรู้ลักษณะสภาพธรรมตามความเป็นจริง คือสภาพธรรมที่ปรากฏอยู่ในขณะนี้นั่นเอง ทางตามีสีปรากฏ ทางหูมีเสียงปรากฏ ทางจมูกมีกลิ่น ทางลิ้นมีรส ทางกายมี เย็น ร้อน แข็ง ตึงไหว ที่ปรากฏ เหล่านี้เป็นความจริง ความคิดนึก โทสะ โลภะ ต่างๆ ก็มี ซึ่งสภาพธรรมเหล่านี้ จะปรากฏกับผู้ที่อบรมเจริญสติปัฏฐาน ซึ่งพระพุทธศาสนามีหลักธรรมประการสำคัญ ก็คือสภาพธรรมเป็นอนัตตา ไม่มีแม้กระทั่งตัวเราที่จะทำความดี ตัวเราที่จะทำ ตัวเราที่จะปฏิบัติ เพราะฉะนั้นเป็นกิจของสภาพธรรม คือสติ และปัญญาที่จะเกิดขึ้นระลึกรู้ลักษณะสภาพธรรมตรงตามความเป็นจริง
เพราะฉะนั้นถ้าเราเข้าใจถูกต้องตรง ปฏิบัติหรือ ปฏิปตติ คือการถึงเฉพาะในลักษณะสภาพธรรมที่ปรากฏจริงๆ ในขณะนี้ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่มีความสำคัญตน มีความสำคัญว่ามีเราจะไปทำ จะไปทำกรรมวิธีอย่างนี้อย่างนั้น เพื่อจะให้เห็น ธรรม ให้รู้แจ้งธรรม เป็นสิ่งที่ไม่ตรง ถ้าเรามีความเข้าใจคลาดเคลื่อนตั้งแต่แรกแล้ว ว่าปฏิบัติคือการที่ต้องไปทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด ความเข้าใจตรงนั้นเป็นความเข้าใจที่ไม่ตรง เมื่อไม่ตรงจะนำไปสู่การเจริญขึ้นของปัญญา ที่จะค่อยๆ รู้ความจริงของสิ่งที่ปรากฏได้อย่างไร และไม่ใช่สติปัฏฐาน หรือปัญญาที่จะเกิดปฏิบัติกิจของสติ และปัญญา ในขั้นที่จะรู้ลักษณะสภาพธรรมตรงตามความเป็นจริง จะเกิดได้โดยไม่มีปัญญาในขั้นการฟัง
เพราะฉะนั้นปัญญาในขั้นการฟังหรือสุตมยปัญญา เป็นสิ่งที่สำคัญคือฟังพระธรรมด้วยความเห็นประโยชน์ แล้วก็พิจารณาในความสอดคล้องของพระธรรม ว่าสิ่งใดเป็นพระธรรมที่ลึกซึ้ง อย่างเช่น เพียงคำว่าปฏิบัติ ถ้าเราจะเข้าใจเพียงว่าไปทำอะไรสักอย่าง กับการที่ไม่มีเรา แต่มีลักษณะสภาพธรรมคือ สติ และปัญญา ที่จะค่อยๆ เข้าใจธรรมที่พระองค์ท่านทรงแสดง แล้วสติ และปัญญาอีกระดับหนึ่งจึงจะเกิดขึ้นปฏิบัติ คือถึงเฉพาะในลักษณะสภาพธรรม แต่ละขณะในปัจจุบันตามความเป็นจริง นั่นคือความหมายของปฏิบัติจริงๆ
อ.กุลวิไล เพราะฉะนั้นการปฏิบัติธรรม จะเริ่มจากการฟังพระธรรมก่อนในขณะนี้ ที่จะเป็นปัจจัยให้มีการพิจารณาสภาพธรรมได้ถูกต้อง จึงจะเป็นการปฏิบัติธรรม