ยากแสนยากที่จะสละความเป็นเรา


    มีใครที่จะรู้ว่า ขณะนี้เป็นนามธรรม เป็นรูปธรรม ทั้งกำลังเห็น กำลังได้ยิน กำลังคิดนึก กำลังรู้สึกเป็นสุขเป็นทุกข์ต่างๆ ไม่ว่าสภาพธรรมที่ปรากฏทางตาขณะนี้ เพราะมี นามธรรมที่กำลังเห็น สภาพนี้จึงปรากฏ แต่รู้เท่านี้ก็ออกจากสังสารวัฏฏ์ไม่ได้ ต้องมีความรู้มากกว่านี้ แต่คิดถึงในยุคสมัยซึ่งไม่มีการตรัสรู้ของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นยุคที่ว่างจากคำสอนของพระบรมศาสดา ทุกคนก็มีชีวิต เห็น ได้ยิน ตั้งแต่เกิดจนตาย วนเวียนไป แต่ว่าไม่สามารถที่จะมีปัญญาที่จะรู้ความจริงว่า ขณะนี้ไม่ใช่ตัวตน ยากแสนยากที่จะสละความเป็นเราเห็น เราได้ยิน เราคิดนึกในขณะนี้ได้

    เพราะฉะนั้นจึงต้องมีจุดเริ่มต้นคือ การฟังพระธรรมด้วยการพิจารณาให้เข้าใจจริงๆ เพราะประโยชน์ของการฟัง คือเพื่อให้เข้าใจ ถึงแม้ว่าสิ่งที่ได้ฟังไม่มาก แต่ว่าพิจารณามาก ไตร่ตรองมาก เข้าใจมาก ก็จะทำให้มีความหนักแน่นมั่นคงในเหตุในผลของพระธรรม ไม่ทำให้มีความเห็นผิดไป เพราะเหตุว่าบางคนอาจจะไม่ทราบว่า ถ้าขณะนี้มีผู้ที่ได้อบรมเจริญปัญญา สามารถที่เป็นปัจจัยให้โพชฌงค์เกิด รู้แจ้งอริยสัจธรรมได้ เพราะเหตุว่าขณะนี้เป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นสภาพธรรมที่ไม่ใช่ตัวตน เป็นสภาพธรรมที่สามารถจะรู้ได้ด้วยปัญญาที่อบรมแล้วเท่านั้น มิฉะนั้นแล้วก็ไม่มีทางที่จะมีใครจะคิดได้เลยว่า ขณะนี้สภาพธรรมมีปัจจัยจึงเกิดแล้วดับ แค่นี้ก็ต้องพิจารณาแล้วใช่ไหมคะ


    หมายเลข 2528
    26 ส.ค. 2558