สติเกิด ปัญญารู้ ไม่เดือดร้อน
ท่านอาจารย์ ถ้าสติเกิดระลึกลักษณะของแข็งบ่อยๆ เดือดร้อนไหม คนที่สติเกิดระลึกรู้ลักษณะของแข็ง ไม่ได้รู้ลักษณะของสภาพธรรมอื่นเลย เพียงแต่ระลึกเมื่อใดก็รู้ที่แข็งที่กระทบกายบ้าง หรืออาจจะเป็นร้อน หรือเย็นที่กำลังกระทบกายบ้าง เดือดร้อนไหมขณะนั้น ว่าทำไมรู้แค่นี้ ถ้าไม่เดือดร้อน แล้วก็ปัญญานั่นเองก็จะปรุงแต่ง ให้รู้ว่ายังมีอย่างอื่นที่สติสัมปชัญญะไม่ได้ระลึก ทั้งๆ ที่มีก็ไม่ได้ระลึก
แต่แม้เป็นเพียงความคิด ก็จะเปลี่ยนให้เป็นสติสัมปชัญญะในขณะนั้นไม่ได้ แล้วแต่ว่าขณะนั้นจะเป็นสติขั้นไหน ระดับไหน และภายหลังก็จะมีปัจจัยให้ระลึกที่เสียง ระลึกสิ่งที่กำลังปรากฏทางตา โดยที่ว่าไม่ใช่เรากะเกณฑ์อยากจะทำด้วยว่าอยากจะรู้ แต่เป็นปัญญาที่รู้ตามความเป็นจริงว่า ยังไม่ได้ระลึกสภาพธรรมอื่นอีกมากมายเลย ซึ่งจะต้องระลึกจนกว่าจะรู้ จนกว่าจะละทั้งหมด จึงจะรู้ว่าไม่มีเราได้
ผู้ฟัง คำว่ารู้แข็ง แข็งเป็นสภาวะหนึ่งของดิน ถ้าหากจะกล่าวว่ารู้ดิน รู้น้ำ รู้ไฟ จะได้ไหม
ท่านอาจารย์ แข็งนี่ต้องเรียกว่าดินหรือเปล่า แข็งกำลังปรากฏ ลักษณะแข็งปรากฏ ต้องเรียกว่าดินหรือเปล่า (ไม่ใช่แต่ว่าเป็นธาตุดิน) ต้องนึกไหมว่าเป็นธาตุดิน (ไม่ต้องนึก) ห้ามได้ไหมว่าไม่ให้คิดว่าเป็นธาตุดิน (ไม่น่าจะได้) มีแต่ไม่น่า จริงๆ แล้วได้รึเปล่า (ไม่ได้) เพราะฉะนั้นเห็นความเป็นอนัตตาไหม ว่ารู้แข็งเพียงนิดเดียว คิดแล้วว่านี่เป็นธาตุดิน ขณะนั้นถ้าไม่รู้ว่าเป็นสภาพคิด ไม่ใช่สภาพที่กำลังรู้แข็ง ก็จะเป็นเราแทรกเข้ามาอีกทันที เพราะฉะนั้นเวลาที่สติสัมปชัญญะเกิด จะเห็นอะไร
คำว่าทิฏฐิ สักกายทิฏฐิ พูดแต่ปากมานานมากเลย แต่เวลาที่เกิดจริงๆ ยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นเราจริงๆ ก็ต่อเมื่อขณะที่สติสัมปชัญญะเกิด มีลักษณะนั้นปรากฏ ก็ยังคิดหรือมิฉะนั้นก็ยังยึดถือได้
นี่แสดงให้เห็นว่า กว่าเราจะละจริงๆ ต้องเป็นปัญญาที่รู้จริงๆ แล้วก็ต้องทั่วด้วย แม้แต่คิดก็รู้ว่าห้ามไม่ได้ แล้วก็ไม่เดือดร้อน ถ้าสามารถที่จะมีปัจจัย ที่สติสัมปชัญญะจะเกิด ก็จะเข้าใจว่าขณะนั้นเป็นสภาพคิด ก็ไม่ใช่เราอีก ทั้งวันไม่ใช่เรา
ผู้ฟัง คือถ้าหากคิดว่ารู้แข็ง มันจะต้องนึกลึกไปอีกว่า แข็งนั่นคือดินนะ
ท่านอาจารย์ นั่นคือตัวตน ไม่ใช่เป็นการรู้แข็ง เป็นการคิดคำ ด้วยความเป็นเรา เพราะไม่รู้ว่าขณะนั้นก็เป็นสภาพคิด ไม่ใช่สภาพรู้แข็ง ขณะที่รู้แข็งไม่ได้คิด ขณะที่คิดไม่ได้รู้แข็ง คิดทำไม รู้ดิน ในเมื่อแข็งกำลังปรากฏ จะต้องไปคิดว่ารู้ดิน ไม่ใช่รู้แข็งทำไม ห้ามไม่ได้จริง แต่ความรู้ต้องค่อยๆ เจริญจนทั่ว จนละจริงๆ เป็นเรื่องจริง เป็นเรื่องที่ละกิเลสได้จริง เป็นเรื่องที่ละความเห็นผิด ที่ยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตนได้จริง แต่ต้องเป็นปัญญาที่เจริญจริงๆ ชาตินี้ทั้งชาติต้องการของจริงหรือเปล่าที่จะอบรมต่อไป แต่ถึงแน่นอน แต่เมื่อไร ก็แล้วแต่ความสมบูรณ์ของปัญญา แต่ถ้าหนทางถูก ก็จะนำไปสู่ความถูกต้อง