ธรรมใดปรากฏ สติสัมปชัญญะระลึกไปในธรรมนั้น
ผู้ฟัง ที่กล่าวถึงว่าบุคคลใด บรรลุธรรมใด ธรรมนั้นย่อมปรากฏกับบุคคลนั้น ที่ผมยกขึ้นมาก็คือว่า ไม่เข้าใจชัดเจนว่าในลักษณะที่เราจะต้องเรียน เราควรจะเรียนสภาพธรรมเพียงสภาพเดียวก่อนหรือไม่ เลือกเรียนซึ่งฟังแล้วก็ไม่ค่อยจะสอดคล้องนัก จะให้เรียนสภาพธรรมสภาพเดียว อีกประเด็นหนึ่งก็คือว่า สภาพธรรมใดปรากฏ ก็ให้เรียนสภาพธรรมนั้น ถ้าอย่างนั้น คำถามที่จะถามนั้น คือบุคคลใดที่บรรลุธรรมใด ธรรมนั้นย่อมปรากฏกับบุคคลนั้น ก็หมายความว่า ไม่เลือกทั้งสิ้นว่าสภาพธรรมนั้นคืออย่างไร ในขณะเดียวกัน ก็จะต้องเข้าใจสภาพธรรมนั้นก่อน ถึงจะรู้ว่าปรากฏใช่หรือไม่
ท่านอาจารย์ คือฟังธรรม ก็ให้รู้ว่าขณะนี้ไม่มีตัวตน ไม่มีสัตว์ บุคคล แต่มีสภาพธรรมซึ่งมีลักษณะต่างๆ เพราะฉะนั้นเราจะฟังธรรม ทั้งที่เป็นนามธรรม และรูปธรรม ทั้งทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ จนกระทั่งเข้าใจในลักษณะของสภาพนั้น นี่คือปัญญาขั้นฟัง และเวลาที่มีการระลึกถึงลักษณะ หรือเรื่องราวที่ได้ยินได้ฟัง ก็มีความเข้าใจจากการไตร่ตรอง และเวลาที่สติสัมปชัญญะเกิด ก็มีปัจจัยที่จะเกิด ที่จะระลึกรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรมสภาพใดก็ได้ นี่คือเราไม่ทิ้งความหมายของคำว่า "อนัตตา" เพราะว่าไม่ใช่ตัวตน ลักษณะของธรรม กว่าจะเข้าถึงความเป็นธรรมจริงๆ ซึ่งไม่ใช่เรา ก็ต้องอาศัยทั้งฟัง ทั้งไตร่ตรอง และเวลาที่สติสัมปชัญญะเกิด ก็เริ่มเข้าใจลักษณะนั้น ในสภาพที่เป็นธรรมนั้นๆ จนกว่าจะปรากฏว่าลักษณะนั้นไม่ใช่ตัวตน