จิต เจตสิก รูป - ปัจจัย - ชีวิตประจำวัน
เมื่อกล่าวสรรเสริญคุณของท่านพระอานนท์ก็มีข้อความที่กล่าวว่า บางท่านมีความสามารถในการฟัง แต่ไม่มีความสามารถในการเรียนและบางท่านก็มีความสามารถในการฟังและมีความสามารถในการเรียน แต่ไม่มีความสามารถในการกล่าว
เพราะฉะนั้นเรื่องของธรรมจะเห็นได้จริง ๆ ว่าเป็นเรื่องที่ละเอียด แล้วต้องพิจารณาจิตใจของแต่ละบุคคลจริง ๆ
สำหรับเรื่องที่จะต้องพิจารณาในเหตุผลจนมีความเข้าใจเพิ่มขึ้น โดยที่ไม่ใช่เป็นการท่องจำ ขอยกตัวอย่างเรื่องของจิต เจตสิก รูป ซึ่งเป็นสังขารธรรมซึ่งอาศัยกันเกิดขึ้น โดยเป็นสภาพธรรมที่เกิดร่วมกัน และเป็นปัจจัยแก่กันและกันตามสมควรของสภาพธรรมแต่ละอย่างนั้น
สำหรับปัจจัยที่ได้กล่าวถึงแล้ว คือ เห-ตุปัจจัยอารัมมณปัจจัย และอธิปติปัจจัย
สำหรับเจตสิก ๖ ดวงซึ่งเป็นเห-ตุปัจจัยให้สภาพธรรมคือจิตและเจตสิกอื่นเกิดพร้อมกับตน ในขณะนั้นถ้าพิจารณาก็จะทราบได้ว่า สำหรับเห-ตุปัจจัยนั้นเป็นปัจจัยให้จิต เจตสิกและรูปเกิดขึ้นเพราะเหตุว่าถ้าจิตเป็นโลภะ จะต้องมีการเคลื่อนไหวของกายบ้าง ของวาจาบ้างด้วยได้ วันหนึ่งๆที่ทุกท่านกระทำกิจสิ่งหนึ่งสิ่งใดโดยไม่รู้ตัวเลย ไม่ว่าจะยืน จะเดิน จะนั่ง จะนอน จะพูด วันนี้ก็มีการกระทำหลายอย่างที่เกิดขึ้นโดยที่ไม่ทราบว่า ในขณะนั้นเป็นโลภเจตสิกที่เกิดกับจิตและเจตสิกเป็นโลภมูลจิตเกิดขึ้น เป็นปัจจัยให้รูปเคลื่อนไหวกระทำกิจการงานต่าง ๆ ด้วยโลภมูลจิตในขณะนั้น ไม่ทราบใช่ไหมคะไม่ได้พิจารณาเลย แต่ให้ทราบว่า เวลาที่เจตสิกที่เป็นเหตุเกิดขึ้นพร้อมกับจิตและเจตสิก เป็นปัจจัยให้รูปเกิดขึ้นกระทำกิจต่าง ๆทางกายและทางวาจาได้
แต่สำหรับอารัมมณปัจจัย คือ สภาพธรรมใดก็ตามซึ่งเป็นปัจจัยให้จิตเกิดขึ้นรู้สภาพธรรมนั้น โดยสภาพธรรมนั้นเป็นอารัมมณปัจจัย คือ เป็นอารมณ์ของจิตดวงนั้น อารัมมณปัจจัยเป็นอารมณ์ของจิต เพราะฉะนั้นสภาพธรรมที่เป็นอารัมมณปัจจัย ทำให้จิตและเจตสิกเกิดขึ้นรู้อารมณ์นั้น แต่ไม่ได้ทำให้รูปเกิดขึ้นรู้อารมณ์นั้น
นี่ก็เป็นเรื่องของจิต เจตสิก รูปซึ่งมีเกิดขึ้นปรากฏในชีวิตปกติประจำวัน โดยที่ไม่ได้รู้สภาพธรรมนั้นๆตามความเป็นจริง แต่ถ้าพิจารณาแล้วสามารถที่จะเข้าใจ โดยการที่ว่า เมื่อศึกษาความละเอียดยิ่งขึ้นก็จะทำให้เข้าใจชีวิตตามปกติตามความเป็นจริงในชีวิตประจำวันนั่นเอง