ทำไมถึงเกิดมาจน ฟังธรรมเพื่ออะไร


    อ.ธิดารัตน์ มีคำถามฝากมา กราบเรียนถามท่านอาจารย์ กราบท่านอาจารย์สุจินต์ที่เคารพอย่างสูง มีคนเขาถามว่าหนูทำไมถึงเกิดมาจน เป็นความผิดของหนูหรือเปล่า และคนที่มาเรียนธรรมที่นี่ มาเรียนเพื่อเพิ่มกิเลส หรือมาเพื่อลดกิเลส

    ท่านอาจารย์ คงต้องถามผู้ฟัง จะได้คำตอบที่ถูกต้อง

    อ.ธิดารัตน์ คำถามนี้ไม่ทราบว่า อ.ประเชิญ จะมีความเห็นหรือไม่

    อ.ประเชิญ คำถามแรก ที่ว่าทำไมเกิดมาจน สมัยครั้งพุทธกาล ก็มีคนถามพระผู้มีพระภาค ก็คือสุภมาณพ ก็เคยทูลถามว่าทำไมคนเรา บางคนจน บางคนรวย บางคนสวย บางคนขี้เหร่ บางคนฉลาด บางคนโง่ เป็นต้น จะมี ๗ คู่ ๑๔ บุคคล ซึ่งพระผู้มีพระภาคก็ตรัสโดยรวมว่า กัมมุนา วัตตตี โลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม เพราะทำมาอย่างไรก็ต้องเป็นอย่างนั้น คือโดยรวมว่าทุกคนก็เป็นไปตามกรรมที่เคยทำไว้นั่นเอง แต่ว่ารายละเอียดส่วนประกอบอย่างอื่นจะเป็นเรื่องของความเพียร ความพยายาม ปโยคะ ก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ว่าทุกอย่างก็จะขึ้นกับกรรมที่เคยทำไว้

    อ.ธิดารัตน์ คำถามที่สอง อ.อรรณพ จะช่วยตอบหรือไม่ว่าจุดประสงค์ของผู้ที่มาฟังธรรมที่นี่ มีจุดประสงค์อย่างไร

    อ.อรรณพ ก็คงไปตอบแทนแต่ละท่านไม่ได้ แต่ละท่านก็คงต้องพิจารณาเองว่า ท่านมีวัตถุประสงค์อะไร แต่คนอื่นก็เป็นเรื่องของคนอื่น แต่สำหรับท่านผู้ถาม ที่สำคัญคือมีวัตถุประสงค์อะไร เราก็คงจะไม่จำเป็นที่เราต้องไปคิดว่าผู้อื่น มีวัตถุประสงค์อะไร หรือว่าเขาจะเพิ่มกิเลส หรือเขาจะละกิเลส เพราะความเป็นจริงทุกคนก็ยังมีกิเลสอยู่แน่นอน ก็ยังมีทั้ง โลภะ โทสะ โมหะ เป็นพื้นอยู่ ส่วนในขณะที่เป็นกุศล มีความสนใจในธรรม ก็ต้องมี ถ้าไม่มีกุศล ไม่มีความสนใจในธรรม ก็คงไม่มาศึกษาธรรมกัน อย่างเช่นที่มาที่นี่

    เพราะฉะนั้นการศึกษาธรรม ก็เป็นเรื่องเตือนทุกคน ที่จะเห็นโทษของอกุศลของตนเอง แล้วก็เห็นใจในความที่ทุกคนก็ยังมีอกุศลอยู่ มากกว่าการที่เราจะไปเพ่งว่าคนอื่นเขามาสะสมอกุศลกันหรือเปล่า ขณะนั้นเราก็เป็นอกุศลเสียแล้ว จิตของเรา เพราะฉะนั้นที่สำคัญคือจิตของเรา จะเป็นกุศลหรือเป็นอกุศลอย่างไร และการมาศึกษาธรรม ก็เพื่อให้เข้าใจธรรมตามความเป็นจริง แล้วสิ่งที่เราเคยติดข้องหรือเคยเป็นข้อกังวลอยู่ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของฐานะ ความรวย ความจน เราก็จะไม่หวั่นไหว ทีละเล็ก ทีละน้อย เมื่อเราเข้าใจธรรม รู้ว่าสิ่งทั้งหลายก็เพราะเหตุปัจจัยทั้งสิ้น แล้วความรวย ความจน ไม่สำคัญเลยกับการเข้าใจธรรม ผู้ที่อาจจะมีทรัพย์สมบัติทางโลกมากมาย แต่ว่าเขาไม่ได้สะสมศรัทธา ไม่ได้สะสม ศีล สุตะ จาคะ หรือปัญญา มาเลย โอกาสที่เขาจะสมบูรณ์พร้อมด้วย ศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ ปัญญา ซึ่งเป็นทรัพย์ของพระอริยเจ้า ก็ไม่มีโอกาสเลย แต่แม้ผู้ที่ยากไร้ที่สุด ยากไร้กว่าเราอีก ในสมัยก่อน แม้ท่านจะไม่มีทรัพย์สมบัติเลย ท่านเป็นคนจน แล้วก็เป็นโรคเรื้อนด้วย แต่ว่าท่านสะสมปัญญามา ท่านก็มีโอกาสที่จะเข้าใจธรรม ท่านเห็นมีการแสดงธรรม ท่านเข้ามาหวังที่จะได้รับอาหาร แต่พอได้ฟังธรรมแล้ว ก็เกิดความเข้าใจธรรม เป็นพระอริยบุคคล

    เพราะฉะนั้น คงไม่ใช่เรื่องที่เราจะกังวล เรื่องความรวย ความจน เเล้วก็ไม่ต้องกังวลว่า ผู้คนอื่นๆ เขาจะศึกษาธรรมเพื่อละกิเลส หรือว่าเขาจะเป็นการเพิ่มพูนกิเลส ก็เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล แต่ที่สำคัญคือ เราเองขัดเกลาด้วยการฟังพระธรรม


    หมายเลข 2682
    16 ก.ย. 2567