อเหตุกจิต-สเหตุกจิต-สหชาตาธิปติปัจจัย
สำหรับสภาพธรรมที่จะมีกำลังที่จะทำให้เป็นอธิปติปัจจัยได้ ต้องเป็นสภาพธรรม คือ จิต และเจตสิกที่มีเหตุเกิดร่วมด้วยอย่างน้อย ๒ เหตุ แต่จะไม่เกิดกับอเหตุกจิตซึ่งไม่มีเหตุเกิดร่วมด้วย และจะไม่เกิดกับโมหมูลจิต ซึ่งมีเหตุเกิดร่วมด้วยเพียงเหตุเดียว
สำหรับจิตซึ่งไม่เกิดร่วมกับเหตุที่เป็นอเหตุกจิต อุปมาว่าเหมือนสาหร่ายที่ลอยไปตามน้ำแต่สำหรับจิตซึ่งมีเหตุเกิดร่วมด้วย เหมือนกับต้นไม้ซึ่งมีรากลึก
ทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นดอก เป็นใบเป็นผลที่จะงอกงามเจริญเติบโตได้ ก็เพราะเหตุว่ามีราก ฉันใด จิตที่จะมีกำลังก็จะต้องประกอบด้วยเหตุ แต่ถ้าไม่ประกอบด้วยเหตุแล้ว อุปมาเหมือนกับสาหร่ายที่ลอยไปในน้ำ ไม่มีรากที่จะหยั่งลึก ที่จะทำให้เกิดงอกงามไพบูลย์ได้
และนอกจากนั้นสำหรับที่จะเป็นสหชาตาธิปติได้ นอกจากเว้นหสิตุปปาทจิต ซึ่งเป็นอเหตุกจิต จิตยิ้มแย้มของพระอรหันต์ซึ่งไม่ประกอบด้วยเหตุแล้ว แม้โมหมูลจิตซึ่งมีเหตุเกิดร่วมด้วยเพียงเหตุเดียว ก็ยังนับว่าเป็นจิตซึ่งไม่มีกำลัง เพราะฉะนั้นจึงไม่มีสหชาตาธิปติปัจจัย
มีข้อสงสัยอะไรบ้างไหมในเรื่องนี้
ขณะนี้กำลังกล่าวถึงสหชาตาธิปติปัจจัยว่า วิบากจิตทั้งหมดไม่มีสหชาตาธิปติ เพราะเหตุว่าไม่ใช่ชวนจิตแต่สำหรับโลกุตตรจิตเว้น คือถ้าเป็นโลกียวิบากทั้งหมด ไม่เป็นสหชาตาธิปติ แต่สำหรับโลกุตตรจิตทั้ง ๘ ดวงคือ โลกุตตรกุศลจิต ๔ ดวง และโลกุตตรวิบากจิต ๔ ดวง ต้องมีสหชาตาธิปติปัจจัย เพราะเหตุว่าเป็นจิตที่มีกำลัง