กุศลที่มีกำลัง เป็นกุศลที่มีกุศลเป็นบริวาร


    สำหรับกุศลกรรมที่ทุกท่านทำอยู่ ที่จะพิจารณาดูว่า กุศลกรรมใดเป็นกุศลที่มีกำลัง ก็คือกุศลที่มีกุศลเป็นบริวาร หรือว่าเพราะเสพคุ้น

    การทำกุศลแต่ละครั้ง จะเห็นได้จริงๆ ว่า ทำไมบางครั้งกุศลจิตเกิดมาก และบางครั้งกุศลจิตเกิดน้อย เพราะฉะนั้นกุศลที่จัดว่าเป็นกุศลที่มีกำลัง ก็ต้องเป็นกุศลที่มีกุศลเป็นบริวาร จึงจะแสดงให้เห็นว่าเป็นกุศลที่ผ่องใส และมีกำลัง ซึ่งถ้าพิจารณาในชีวิตประจำวัน ท่านที่สนทนาธรรม ท่านที่แสดงธรรม หรือท่านที่ศึกษาธรรม ขณะที่ท่านกำลังแสดงธรรมก็ดี หรือสนทนาธรรมกันก็ดี มีความสำคัญตนเกิดขึ้นแทรกในขณะนั้นบ้างหรือเปล่า ทางที่จะรู้ว่าเป็นกุศลที่มีกำลังหรือไม่ใช่กุศลที่มีกำลัง ก็ต้องอาศัยสติสัมปชัญญะเกิดขึ้นระลึกรู้สภาพของจิตในขณะนั้นว่า เป็นกุศลล้วนๆ หรือว่าเป็นกุศลที่มีอกุศลเกิดแทรกบางขณะ เพราะว่าผู้ที่ยังไม่ใช่พระอริยบุคคลขั้นพระอรหันต์ ย่อมยังคงมีความสำคัญตน จะมากหรือจะน้อยต้องแล้วแต่การสะสมของแต่ละบุคคล

    ทุกท่านที่เกิดมามีความรักตน เมื่อมีความรักตนจึงต้องการให้ตนสำคัญ จึงมีความสำคัญในตน แม้ในเรื่องของการศึกษาธรรม การแสดงธรรม หรือการสนทนาธรรม ถ้าสติสัมปชัญญะไม่เกิด ก็จะขาดการระลึกรู้ลักษณะของจิตในขณะนั้นว่า เป็นกุศลโดยตลอดหรือว่ามีอกุศลประเภทใดเกิดแทรกบ้าง

    บางท่านบางขณะอาจจะไม่ใช่ความสำคัญตน แต่อาจจะเป็นการหวังอะไรบ้างหรือเปล่า บางคนอาจจะหวังลาภ หวังยศ หวังชื่อเสียง หรือแม้แต่เพียงหวังคำชมในความสามารถ ในความเก่ง ในความขยัน ในความตั้งใจศึกษา ในขณะเหล่านั้นกุศลจะมีกำลังเท่ากับขณะที่ไม่หวังหรือเปล่า

    นี่ต้องเป็นผลของการเป็นผู้มีปกติอบรมเจริญสติปัฏฐาน สติจึงสามารถจะระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังเกิดขึ้นปรากฏในขณะนั้นตามความเป็นจริงได้ว่า สภาพธรรมใดเป็นกุศล และสภาพธรรมใดเป็นอกุศล หรือว่าในการสนทนาธรรม มีโทสะ มีความขุ่นใจ มีความไม่แช่มชื่นใจ ไม่พอใจ เกิดขึ้นบ้างไหมถ้าบุคคลอื่นไม่เห็นด้วย หรืออาจจะเป็นผู้ที่ไม่มีเหตุผลในการขัดแย้ง

    นี่เป็นสิ่งซึ่งเป็นชีวิตประจำวันจริงๆ ที่จะพิจารณาว่ากุศลขณะใดเป็นกุศลที่มีกำลัง และขณะใดเป็นกุศลที่ไม่มีกำลัง นอกจากจะเพราะมีกุศลเป็นบริวาร ทำให้กุศลนั้นมีกำลังแล้ว ก็ยังเป็นเพราะการเสพคุ้น คือ กระทำบ่อยๆ หรือว่าเมื่อนึกถึงกุศลที่ได้กระทำแล้ว จิตใจก็ยังเบิกบานผ่องใส ปราศจากอกุศล ขณะนั้นก็แสดงว่าเป็นกุศลที่มีกำลัง เพราะเหตุว่าทุกท่านก็จะต้องเคยทำกุศลมาแล้ว มากบ้าง น้อยบ้าง แต่บางครั้งก็ลืมกุศลนั้น ไม่ได้นึกถึงเลย แต่กุศลบางครั้งที่ได้ทำแล้วมีกำลัง ทำให้ระลึกถึงด้วยความปีติโสมนัสบ่อยๆ เพราะฉะนั้นก็แสดงให้เห็นว่ากุศลกรรมที่ได้ทำแต่ละครั้งนั้น ก็ย่อมมีทั้งกุศลที่มีกำลัง และกุศลที่ไม่มีกำลัง


    หมายเลข 2742
    2 ส.ค. 2567