สมถภาวนาต้องประกอบด้วยปัญญาเจตสิก


    ลักษณะของสมาธิก็ปรากฏได้ แต่ไม่ใช่สมถะถ้าไม่ใช่กุศลจิต แต่ถ้าเป็นกุศลจิต แล้วก็เกิดสงบ แล้วก็มีปัญญาที่สามารถทำให้จิตนั้นเป็นกุศล เพราะว่าตรึกนึกถึงอารมณ์ที่เป็นกุศลมากขึ้น ขณะนั้นกุศลจิตก็จะเกิด ๗ ขณะ ๗ ขณะ บ่อยครั้ง ลักษณะของความสงบจะปรากฏ เมื่อมากขึ้นความสงบนั้นถึงระดับของสมาธิขั้นต่างๆ แต่ว่าต้องประกอบด้วยปัญญาเจตสิก ถ้าไม่ประกอบด้วยปัญญาเจตสิกจะอบรมเจริญความสงบที่เป็นสมถภาวนา หรือว่าจะอบรมการรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนี้ซึ่งเป็นสติปัฏฐาน เป็นการอบรมเจริญภาวนาไม่ได้ ถ้าไม่มีปัญญาเจตสิกเกิดร่วมกับจิตนั้นๆ

    เพราะฉะนั้นสมถะไม่ใช่สมาธิ เพราะว่าสมาธิก็เป็นลักษณะของความตั้งมั่นเป็นลักษณะของเอกัคคตาเจตสิก แต่เวลาที่จิตสงบลักษณะของเอกัคคตาเจตสิกก็มีกำลังขึ้น จนถึงระดับที่ปรากฏเป็นลักษณะของความสงบขั้นต่างๆของสมาธิ


    หมายเลข 2770
    26 ส.ค. 2558