พระโสดาบัน กับ อกุศลกรรมทางกาย วาจา


    ผู้ฟัง เรื่องอกุศลกรรมบถ ๑๐ พระโสดาบันละเพียง ๕ เท่านั้น พระโสดาบันก็ยังมีทางที่จะล่วงอกุศลกรรมบถ เช่น ปิสุณาวาจา ผรุสวาจา หรือสัมผัปปลาป หรือพยาปาท อภิชฌาต่างๆ พระโสดาบันก็ยังมีได้ แต่ทำไมไม่ส่งผลให้เกิดในอบายล่ะครับ

    ท่านอาจารย์ เพราะเหตุว่าการรู้แจ้งอริยสัจธรรมถึงขั้นที่ประจักษ์ลักษณะของนิพพาน ดับกรรมที่จะทำให้เกิดในอบายภูมิ พระโสดาบันบุคคลยังไม่ใช่พระอรหันต์ เพราะฉะนั้นการกระทำทางกาย ทางวาจาที่เป็นอกุศล ยังมี ไม่ใช่พระโสดาบันจะไม่พูด ไม่ใช่พระโสดาบันจะไม่ทำ ไม่ใช่พระโสดาบันจะไม่คิด และเมื่อยังมีอกุศลจิตอยู่ ก็ย่อมมีอกุศลทางกาย ทางวาจา แต่ไม่ถึงขั้นที่จะทำให้ปฏิสนธิในอบายภูมิ พระโสดาบันจะไม่คิดฆ่าใคร แต่พระโสดาบันก็โกรธ

    ผู้ฟัง ในเมื่อพระโสดาบันยังมีพยาปาท ในเมื่อพยาปาทมีได้ ก็ต่อเมื่อคิดว่าให้คนนั้นจะตาย

    ท่านอาจารย์ เปล่าเลย ไม่จำเป็นต้องถึงขั้นนั้นเลยค่ะ พยาปาทไม่ได้หมายความว่า ให้ตายค่ะ เพียงแต่ท่านผู้ฟังไม่ชอบใคร แล้วอยากจะให้เขาเดือดร้อนนิดหน่อย มีไหมคะ

    ผู้ฟัง คำว่า “พินาศ” หมายถึงตายหรือเปล่า

    ท่านอาจารย์ ปาณาติบาต เป็นการฆ่าแน่ แต่พยาปาทไม่ใช่ฆ่า

    ผู้ฟัง คิดปองร้าย ใช่ไหม

    ท่านอาจารย์ คิดที่จะให้คนอื่นเดือดร้อนบ้างเล็กๆ น้อยๆ นี่ได้หรือไม่ได้คะ

    ผู้ฟัง คือต้องการให้สัตว์อื่นพินาศ ถ้ายังไม่มีความโกรธเกิดขึ้น ไม่มีความต้องการให้สัตว์อื่นพินาศ กรรมบถก็ยังไม่แตก

    ท่านอาจารย์ ถ้าคนหิว แล้วก็มีพระโสดาบันรู้สึกว่า เขาหิวอีกหน่อยก็ไม่เป็นไร ทำให้คนอื่นเดือดร้อนไหมคะ เขาคนนั้นที่กำลังหิว ควรจะได้อาหารแล้ว แต่ว่าหิวอีกหน่อยก็ไม่เป็นไร เป็นกุศลหรืออกุศล ทำให้คนอื่นเดือดร้อนไหม แต่ไม่ใช่ขั้นที่จะถึงกับฆ่า ไม่ถึงกับต้องการให้เขาสิ้นชีวิตค่ะ

    เพราะฉะนั้นการที่จะรู้ระดับจิตของแต่ละบุคคล ซึ่งทำให้เกิดกาย วาจาต่างๆ กัน จะเปรียบเทียบได้ว่า การรู้แจ้งอริยสัจธรรมทำให้จิตใจละคลาย และไม่สามารถที่จะล่วงทุจริตกรรมที่เป็นศีล ๕


    หมายเลข 2823
    2 ส.ค. 2567