ไม่สามารถได้สติด้วยความอยาก ต้องอบรม


    แม้แต่คำว่าสติต่อไปนี้เราก็รู้ว่า ขณะใดที่เป็นกุศล ขณะนั้นจึงเป็นสติ ถ้าไม่ใช่กุศล ขณะนั้นไม่ใช้คำว่าสติก็ใช้ในภาษาไทยกันเอง แต่ไม่ใช่สภาพของสติ สติจริงๆต้องระลึกเป็นไปในกุศล

    กำลังโกรธ สติเกิดไหมคะ ไม่เกิด แต่พอระลึกได้ว่าโกรธนี้ไม่ดี คนที่เราโกรธกำลังสบาย กำลังเป็นสุข สนุกสนาน เราคนเดียวกำลังเดือดร้อน กำลังไม่สบายเลยสักนิดหนึ่งจิตใจกำลังขุ่นมัวเต็มที่ แล้วใครทำให้ เราทำเอง ถ้ามีปัญญาจริงๆ เห็นโทษของอกุศลขณะนั้น เป็นสติไม่ใช่เราอีกเหมือนกัน

    เพราะฉะนั้นให้ทราบว่า ขณะใดสติเกิด ขณะนั้นเป็นไปในทางที่ดี แต่ว่าขณะใดที่เป็นไปในทางที่ไม่ดี ขณะนั้นสติก็ไม่เกิด แล้วเราก็อยากจะมีสติเยอะๆ ใช่ไหมคะนั่นเพียงอยาก แต่ว่าเราไม่สามารถได้สติด้วยความอยาก ต้องได้ด้วยการเจริญอบรมทีละเล็กทีละน้อย จึงจะมีความมั่นคงขึ้น

    ทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ใช่มีอยู่แล้ว แต่ต้องอบรมในทางที่ดี ไม่ว่าจะเป็นสมถะหรือวิปัสสนา อย่างสติก็ต้องมีการระลึกได้บ่อยๆ ขณะที่ฟังแล้วเข้าใจ ขณะนั้นก็เป็นสติ ถ้ากำลังฟังแล้วก็นึกเรื่องนั้นเรื่องนี้ ขณะนั้นเป็นสติไหมคะ ไม่เป็น ขณะนั้นก็เป็นอกุศล ซึ่งเราก็บังคับไม่ได้อีก แต่เราเริ่มเข้าใจแล้วว่า ลักษณะของสติต้องต่างจากขณะที่เป็นอกุศล ถ้าเราโกรธใครแล้วมีคนมาบอกว่าโกรธมากๆ ดีนะ ขณะนั้นถ้าเราเห็นด้วย เป็นสติหรือเปล่าไม่เป็น แต่ถ้ามีคนบอกเราบอกว่า ความโกรธไม่มีประโยชน์เลย ถ้าเราพิจารณาแล้วเห็นจริงๆ ขณะนั้นเป็นสติ เป็นไปในทางที่ดีงามทั้งหมด เราต้องสามารถที่จะแยกออกได้ ธรรมไหนดี ธรรมไหนไม่ดี แล้วใครจะต้องการสิ่งที่ไม่ดีกับตัวเอง แต่เพราะความไม่รู้ต่างหากเราจึงสะสมสิ่งที่ไม่ดีมากมาก แล้วเราก็ต้องมานั่งแก้สิ่งที่ไม่ดีของเราเอง ซึ่งคนอื่นแก้ให้ไม่ได้เลย


    หมายเลข 2843
    26 ส.ค. 2558