ชนกกรรม


    ปฏิสนธิจิตในชาตินี้เกิดแล้ว เพราะกรรมหนึ่งเป็นชนกกรรม คือ เป็นกรรมที่ทำ ให้ปฏิสนธิจิตซึ่งเป็นวิบากเกิด ฉันใด กรรมที่ได้ทำแล้วในชาตินี้ และในชาติก่อนๆ ๆ ทั้ง หมด กรรมหนึ่งจะเป็นชนกกรรม คือ จะทำให้ปฏิสนธิจิตของชาติหน้าเกิดขึ้นต่อจากจุติจิตของชาตินี้ ซึ่งย่อมเป็นได้ทั้งกุศลกรรม หรืออกุศลกรรม

    สำหรับกรรมที่เป็นชนกกรรม เมื่อทำให้ปฏิสนธิจิตเกิดขึ้นแล้ว ก็ยังทำให้ ภวังคจิตเกิดต่อ และนอกจากภวังคจิตเกิดแล้ว ก็ยังทำให้จักขุวิญญาณ จิตเห็น โสตวิญญาณ จิตได้ยิน ฆานวิญญาณ จิตได้กลิ่น ชิวหาวิญญาณ จิตลิ้มรส กายวิญญาณ จิต ที่รู้โผฏฐัพพะที่กระทบสัมผัสเกิดขึ้นด้วย เช่น ถ้าเกิดในสกุลที่พรั่งพร้อมมั่งคั่ง จักขุวิญญาณ โสตวิญญาณ ฆานวิญญาณ ชิวหาวิญญาณ กายวิญญาณ ก็ย่อมกระทบสัมผัส กับอารมณ์ที่น่าพอใจทั้ง ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ

    กรรมที่เป็นชนกกรรมทำกิจอุปถัมภ์ให้ได้รับผลของกรรมนั้นด้วยตามควร ก่อนที่กรรมอื่นจะให้ผล แต่ไม่ได้หมายความว่า จะมีแต่เฉพาะกรรมนั้นกรรมเดียว เพราะว่าทุกคนเกิดมาแล้ว ไม่ ว่าจะเกิดในสกุลใดก็ตามแต่ ไม่ว่าจะเกิดในครอบครัวที่มั่งคั่งหรือขัดสน ก็ย่อมมีโอกาส ที่กรรมอื่นจะทำให้วิบากจิตเกิด ซึ่งอาจจะทำให้ได้รับความไม่สะดวกสบายต่างๆ ทำให้ ป่วยไข้ได้เจ็บต่างๆ นั่นก็เป็นผลของอกุศลกรรม ซึ่งให้ผล ถ้าผู้นั้นเกิดในภูมิมนุษย์ เพียบพร้อมด้วยความสุขสมบูรณ์ แต่ก็ยังมีอกุศลกรรมที่ได้กระทำแล้วให้ผล หรือผู้ที่เกิด ในสกุลที่ขัดสน ก็ยังมีกุศลกรรมในอดีตที่ทำให้มีการเห็นบ้าง การได้ยินบ้าง การได้กลิ่น การลิ้มรส การรู้สิ่งที่กระทบสัมผัสที่น่าพอใจ เพราะฉะนั้นก็จะเห็นได้ว่า กรรมที่ได้กระทำแล้ว ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นอีก แล้วแต่ว่ากรรมใดมีโอกาสพร้อมด้วยปัจจัยที่จะให้ผล กรรมนั้นก็เกิดขึ้นทำกิจของกรรมนั้น ในชีวิตของแต่ละคนซึ่งเกิดมา ตอนเป็นเด็ก ชนกกรรมทำให้ปฏิสนธิ แล้วก็ยัง ทำให้วิบากจิตเกิดสืบต่อดำรงความเป็นบุคคลนั้น ในสกุลนั้น ในฐานะนั้น แต่ว่าในชีวิต ของแต่ละคนก็มีการขึ้น และลงตามกรรมที่เกิดขึ้นด้วย เพราะฉะนั้น ก็ย่อมแล้วแต่ว่าใน ขณะนั้นกรรมอื่นจะให้ผล ย่อมสามารถจะให้ผลได้หลังจากที่ปฏิสนธิแล้ว


    หมายเลข 2847
    2 ส.ค. 2567