คิดยังไงกับผู้หญิงออกบวชเป็นสามเณรี


    ผู้ฟัง ในแง่ของรูปแบบ เมื่อกี้ท่านอาจารย์พูดถึงในแง่ของการปฏิบัติธรรม ในแง่ของรูปแบบ สิทธิมนุษยชน สิทธิของสตรึ มีสิทธิมาบวชเป็นภิกษุณี สามเณรี มุมมองของท่านอาจารย์เป็นอย่างไรครับ

    ท่านอาจารย์ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประสงค์ให้สตรีบวชหรือเปล่าคะ

    ผู้ฟัง ไม่ประสงค์ครั้งแรกครับ

    ท่านอาจารย์ เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัญญาเหนือของใครทั้งหมด แล้วไม่ประสงค์เช่นนั้นต้องมีเหตุผล แต่ในกาละที่อนุญาตก็เป็นไปตามเหตุผลเหมือนกัน เพราะเหตุว่าเป็นกาลสมบัติที่ผู้หญิงสามารถอบรมเจริญปัญญาบรรลุถึงความเป็นพระอรหันต์ได้ และเมื่อเป็นพระอรหันต์แล้ว จะอยู่ครองเรือนอย่างชาวบ้านต่อไปผิดวิสัย แม้แต่เพียงบวช ยังไม่ใช่พระอรหันต์ ก็จะอยู่อย่างชาวบ้านไม่ได้แล้ว และถ้าถึงระดับของจิตที่เป็นพระอรหันต์ ไม่ใช่สมมติสงฆ์ แต่เป็นอริยสงฆ์ ก็จะอยู่อย่างคฤหัสถ์ไม่ได้ ด้วยเหตุนั้นจึงทรงอนุญาตให้บวช แต่ทรงจำกัดข้อประพฤติปฏิบัติไว้มาก เพื่อให้ผู้อยู่ในกาลหลังๆ ไม่สามารถบวชได้ ก็เป็นการรักษาพระธรรมวินัยไว้มาก เพราะผู้ที่เป็นผู้หญิง ถ้ามีปัญญาก็ถึงความเป็นพระอรหันต์ แต่ในยุคหลังๆ เช่นในยุคนี้ ก็จะไม่มีพระอรหันต์ที่ไม่มีแม้แต่คุณวิเศษ เพราะใน ๑,๐๐๐ ปี จะมีพระอรหันต์ที่ทรงวิเศษด้วย พันปีที่สองก็จะมีพระอรหันต์ซึ่งไม่มีคุณวิเศษพิเศษ แล้วในพันปีที่สามก็เป็นยุคของผู้จะบรรลุถึงความเป็นพระอนาคามีบุคคลเท่านั้น ไม่ถึงความเป็นพระอรหันต์

    เพราะฉะนั้น ก็ค่อยๆ เสื่อมไป ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่ผู้หญิงจะต้องบวช เพราะการบวชเป็นการขัดเกลา และพูดถึงสถานภาพ ซึ่งรู้สึกอยากเหลือเกินที่จะมี ถูกต้องไหมคะ ผู้หญิงอาจจะคิดว่าตัวเองต่ำต้อย และไม่มีสถานภาพใดๆ แต่ตามความเป็นจริงสถานภาพที่แท้จริงคือคุณความดี ไม่ว่าหญิงหรือชาย ถ้าประพฤติไม่ดี มีใครยกย่องบ้าง จะไปเรียกร้องสถานภาพให้ใครมายกย่อง ถ้าความประพฤติไม่ดี แต่ถ้ามีคุณความดีแล้วไม่ต้องเรียกร้องให้ใครมายกย่องเลย ชาวโลกหรือใครๆ ก็ไม่ต้องอ้อนวอน ไม่ต้องให้ใครมาบอก แต่ทุกคนก็ยกย่องในคุณความดี

    เพราะฉะนั้น ก็เป็นสัจธรรม เพราะว่าเป็นผู้ที่ทุกคนจะต้องยกย่องในคุณความดี ไม่ใช่ยกย่องเพียงภายนอก ไม่เห็นมีใครไม่ยกย่องผู้หญิง แม่น้ำ แม่ทัพ แม่ของลูก แม้แต่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ต้องมีพระมารดา แล้วต้องการอะไร เรียกร้องอะไรกันอีก ถ้าต้องการคือทำความดี แล้วเป็นที่ยกย่อง ไม่ต้องเรียกร้องเลย


    หมายเลข 3026
    28 ก.ค. 2567