ตทาลัมพณจิตทางปัญจทวารและมโนทวาร


    ผู้ฟัง ที่บอกว่าตทาลัมพณะจิตที่เกิดทางปัญจทวาร มีรูปธรรมเป็นอารมณ์เท่านั้น เพราะอารมณ์ทางปัญจทวารก็มีรูปธรรมอารมณ์อยู่แล้ว เป็นจิตชาติวิบาก มีรูปธรรมเป็นอารมณ์ ส่วนทางมโนทวาร ตทาลัมพณะจิตที่เกิดทางมโนทวาร มีรูปธรรมเป็นอารมณ์ได้ในวิถีแรกๆ วิถีก็มีนามธรรมเป็นอารมณ์ แล้วมีบัญญัติเป็นอารมณ์ได้หรือไม่

    อ.อรรณพ มโนทวารรู้ได้ทั้งปรมัตถ์ และบัญญัติ ถ้าเป็นมโนทวารวิถีแรกที่เกิดสืบต่อจากทางปัญจทวาร หลังจากที่ปัญจทวารดับแล้ว หลังจากที่ ตทาลัมพณจิตดับแล้ว ก็เป็นภวังค์ แล้วมโนทวารก็เกิด มโนทวารวิถีจิต ก็เกิดต่อ ก็มีตทาลัมพณะ ซึ่งก็รู้ในลักษณะของรูปซึ่งดับไปทางปัญจทวาร แต่ด้วยความสืบต่อที่รวดเร็ว เหมือนนกที่เกาะบนกิ่งไม้ เงานกก็ทาบมายังพื้นทันที เหมือนปัญจทวารเป็นตัวนก แล้วก็มโนทวารเป็นเงานก

    เพราะฉะนั้นตทาลัมพณะทางมโนทวารก็มีได้ที่จะเกิดขึ้นสืบต่อกับชวนะ แล้วก็วิถีจิตทางมโนทวาร สามารถรู้รูปธรรมอื่นๆ ที่ไม่ได้ปรากฏทางปัญจทวารได้ด้วย แล้วแต่บุคคล แล้วแต่กาล แล้วแต่ปัจจัย นามธรรมก็เช่นกัน ถ้าอารมณ์เป็นบัญญัติก็ไม่มีตทาลัมพณะ

    ผู้ฟัง ถ้าอารมณ์เป็นบัญญัติก็จะไม่มีตทาลัมพณะทางมโนทวาร แสดงว่าตทาลัมพณะก็ไม่สามารถมีอารมณ์เป็นบัญญัติได้ ใช่ไหม

    อ.อรรณพ ทางมโนทวาร

    ผู้ฟัง เพราะฉะนั้น ถ้าเกิดสติปัฏฐาน จะมีบัญญัติเป็นอารมณ์ ก็ไม่ถึง ตทาลัมพณะ

    อ.อรรณพ สติปัฏฐานไม่มีบัญญัติเป็นอารมณ์อยู่แล้ว

    ผู้ฟัง ทางปัญจทวารมีรูปธรรมเป็นอารมณ์ใช่ไหม แล้วรูปธรรมนั้นก็คือเกิดสืบต่อดับไปแล้วก็ยังมาเป็นอารมณ์ของจิตทางมโนทวารวิถีแรกๆ เพราะฉะนั้น ถ้าสติปัฏฐานจะรู้รูปธรรม จะรู้บัญญัติรู้ไม่ได้เลย เพราะฉะนั้น ก็แสดงว่า บัญญัติไม่สามารถที่จะเป็นอารมณ์ของสติปัฏฐานได้ เพราะว่าไม่มีตทาลัมพณะสืบต่ออีก๒ ขณะ กล่าวอย่างนี้ได้หรือไม่

    ท่านอาจารย์ ตทาลัมพณะ รู้ได้ไหม

    ผู้ฟัง รู้ไม่ได้ แต่ว่าทฤษฎีกล่าวไว้อย่างนี้

    ท่านอาจารย์ ทฤษฎีกล่าวไว้ ก็ต้องพิจารณาด้วยว่าสามารถที่จะรู้ได้ไหม

    ผู้ฟัง เพราะเหตุว่า ในเมื่อเราเห็นทางตา ทางหู ลิ้มรส ได้กลิ่น

    ท่านอาจารย์ รู้ปัญจทวาราวัชชนจิตได้ไหม

    ผู้ฟัง รู้ไม่ได้ แต่ว่าถ้าเกิดกระทบ เราก็สามารถรู้ว่ามันเกิดขึ้นได้จากการเห็น เรารู้ว่ามี เพราะเราเห็น ใช่ไหม

    ท่านอาจารย์ ที่รู้ได้ขณะนี้ รู้อะไรได้

    ผู้ฟัง เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส หรือว่า เย็น-ร้อน อ่อน-แข็ง ตึง-ไหว รู้ได้ เป็นปรมัตถธรรมทั้งสิ้น ไม่มีบัญญัติเลย เพราะฉะนั้นการที่เขาจากไปแล้ว แล้วเขาจะเกิดต่อเป็นอารมณ์ทางมโนทวารใน วิถีแรกๆ ก็ต้องเป็นปรมัตถธรรมด้วย เพราะฉะนั้นการที่จะรู้ ในสิ่งเหล่านี้ ทั้งทางปัญจทวาร และทางมโนทวาร ต้องเป็นอารมณ์ที่เป็นปรมัตถธรรมอย่างเดียวเท่านั้น

    ท่านอาจารย์ เอาที่รู้ได้ ดีที่สุด

    ผู้ฟัง กล่าวไว้อย่างนี้

    ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้น กล่าวไว้มากมาย ๔๕ พรรษา พระไตรปิฎกเรารู้ได้แค่ไหน


    หมายเลข 3046
    8 ก.ย. 2567