วิมังสา หรือ ญานสัมปยุต
บุญเรือง ขอให้อาจารย์ยกตัวอย่างวิมังสาเป็นอธิบดี
ท่านอาจารย์ วิมังสาเป็นอธิบดีต้องเกิดกับมหากุศลที่เป็นญาณสัมปยุตต์ และถ้าเป็นการอบรมเจริญสมถภาวนาหรือสติปัฏฐานแล้ว ขณะนั้นเป็นมหากุศลญาณสัมปยุตต์ เมื่อยังไม่ถึงฌานจิตหรือโลกุตตรจิต ขณะใดที่ประกอบด้วยปัญญาซึ่งมีกำลังเท่านั้น ปัญญาหรือวิมังสะจึงจะเป็นอธิบดีแต่ถึงแม้ว่าจะเป็นมหากุศลญาณสัมปยุตต์จริงแต่ไม่มีกำลัง เช่นในขณะที่กำลังฟังธรรมมีความเข้าใจไปเรื่อย ๆ ยังไม่มีลักษณะที่ปัญญาปรากฏเป็นอธิบดี หรือเป็นหัวหน้า ในขณะนั้นก็เป็นมหากุศลญาณสัมปยุตต์ แต่ว่าปัญญายังไม่เป็นอธิบดี เพราะฉะนั้นเมื่อไรปัญญาเป็นอธิบดี เมื่อนั้นสติสัมปชัญญะก็จะรู้ว่า กุศลจิตในขณะนั้นมีปัญญาเป็นอธิบดี
เรือง ขณะที่จิตมีความโลภกำลังเกิดขึ้น มีจิตรู้นี้เป็นอธิบดีหรือยังครับ เป็นญาณสัมปยุตต์หรือยังครับ
ท่านอาจารย์ คนอื่นไม่สามารถจะบอกได้เลยถึงลักษณะของอธิปติในขณะนั้นว่า มีปัญญาเป็นอธิปติ หรือปัญญายังไม่เป็นอธิปติ ต้องเป็นสติสัมปชัญญะของบุคคลนั้นเองที่จะทราบได้ คนอื่นไม่สามารถที่จะทราบได้
เพราะฉะนั้นก็มีมหากุศลญาณสัมปยุตต์ซึ่งปัญญายังไม่เป็นอธิปติ และที่ปัญญาเป็นอธิปติ ซึ่งบุคคลนั้นเองเท่านั้นที่จะรู้ได้พร้อมด้วยสติสัมปชัญญะ การรู้ลักษณะของสภาพธรรมต้องพร้อมด้วยสติสัมปชัญญะ จึงจะสามารถรู้ได้ถูกต้องตามความเป็นจริง
สภาพธรรมที่เป็นอธิปติปัจจัยมีเพียง ๔ เท่านั้น คือ ฉันทเจตสิก วิริยเจตสิก และจิต และปัญญาเจตสิก โดยที่ต้องรู้ความละเอียดว่า จิตขณะไหน ดวงไหน ประเภทไหนที่จะเป็นอธิปติปัจจัยได้
สำหรับกุศลจิตทั้งหมดเป็นสหชาตาธิปติปัจจัยได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นทุกครั้ง