แนะนำให้ทำพิธีกรรมที่เอื้อต่อปัญญาอย่างไร
ผู้ฟัง อาจารย์จะแนะอย่างไรว่า ทำอย่างไรเราถึงจะทำให้สถาบันการศึกษา อย่างน้อย ๔-๗ แห่งที่มา กลับไปสั่งสอนอบรมนักเรียนให้ทำพิธีกรรมต่างๆ ที่เกื้อกูลเพื่อเสริมสร้างปัญญา ไม่ใช่เพียงพิธีกรรมถ่ายเดียว
ท่านอาจารย์ จริงๆ แล้วการศึกษาทั้งหมดต้องมาจากผู้รู้ ถ้าไม่มีผู้รู้ แล้วจะให้การศึกษาใดๆ ไม่ได้เลย พระพุทธศาสนาก็เช่นเดียวกัน ก็จะต้องมีผู้ศึกษาแล้วเข้าใจธรรม ตามวัดท่านก็มีการศึกษาปริยัติธรรม เท่าที่ทราบ แต่ว่าต้องเป็นเรื่องตรงจุดประสงค์ แต่ถ้าจุดประสงค์คือต้องการรับประกาศนียบัตร เป็นเครื่องยืนยันการศึกษา อันนั้นไม่มีในครั้งพุทธกาล เพราะเป็นเรื่องละ เรื่องขัดเกลาจริงๆ แต่ถ้าศึกษาเพื่อรู้ เพื่อเข้าใจส่วนตัวของเรา ก็ไปศึกษาปริยัติธรรมที่มีเรื่องจิต เรื่องเจตสิกได้ แต่ส่วนใหญ่ก็จะเน้นไปในเรื่องจำนวน แต่ข้อความต่างๆ ที่มีในพระไตรปิฎกก็ยกขึ้นมากล่าว แต่ผู้ฟังต้องพิจารณา แล้วต้องสอบเหตุผลให้เป็นความเข้าใจของตัวเองด้วย
จริงๆ แล้วเรื่องประเพณีต่างๆ ก็เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา แต่ต้องดูว่า เข้าใจถูกต้องในสิ่งนั้นหรือเปล่า ถ้าไม่มี ก็ไม่ต้องทำ
ก็ยกตัวอย่างจริง คือการสวดศพที่เป็นพระอภิธรรม คนฟังไม่เข้าใจ แต่ก็ยังคงมีการสวดอยู่ แต่ข้อสำคัญที่สุดก็คือต้องรู้ว่า เป็นคำสอนที่วันหนึ่งเมื่อศึกษาแล้วก็จะเข้าใจได้ เหมือนกับเป็นเครื่องเตือนว่า อย่าทิ้ง อย่าลืมคัมภีร์ที่สำคัญมาก คือ พระอภิธรรม แต่ถ้าไม่เข้าใจ ก็เป็นเหมือนงานศพที่เราเห็น บางคนก็มีสนทนาธรรมด้วย นอกจากการสวด เพราะการสวดที่พระมารับไทยธรรมที่อุทิศส่วนกุศลให้ผู้ตายเป็นผู้สวด