ผู้อุทิศต้องมีเมตตาจิต
และเรื่องของการอุทิศส่วนกุศล หมายความว่าในขณะนั้นผู้อุทิศต้องมีเมตตาจิต จึงสามารถอุทิศส่วนกุศลให้แต่ละบุคคลนั้นได้ ถ้าท่านขาดเมตตาจิตในบุคคลใด ท่านจะไม่อุทิศส่วนกุศลให้บุคคลนั้น
เพราะฉะนั้นเรื่องของการอุทิศส่วนกุศล ก็เหมือนกับเรื่องการเจริญเมตตา คือต้องเป็นผู้มีเมตตา จึงสามารถอุทิศส่วนกุศลในขณะนั้นได้
ถ้าคิดถึงเจ้ากรรมนายเวรที่มองไม่เห็น กับคิดถึงบุคคลหนึ่งบุคคลใดซึ่งท่านกำลังไม่พอใจ แทนที่จะคอยโอกาสแผ่เมตตาด้วยการอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรที่ท่านไม่เห็นหน้า แล้วไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่กับคนที่ท่านกำลังเห็น และอาจจะไม่พอใจ และบุคคลนั้นคงจะเคยเป็นเจ้ากรรมนายเวรได้ไหม ลองคิดดูนะคะ ซึ่งความจริงเจ้ากรรมนายเวรไม่มี ทุกท่านมีกรรมเป็นของตน แต่ถ้าคิดถึงกรรมที่ได้เคยกระทำต่อบุคคลอื่น และเรียกบุคคลที่ท่านเคยกระทำว่า เป็นเจ้ากรรมของท่าน และใคร่จะให้เขามีความสุข ให้พ้นจากการผูกโกรธ ในขณะนั้นทำไมไม่ละเว้นโดยเจริญเมตตากับคนที่ท่านเห็น แทนที่จะไปอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรที่ท่านมองไม่เห็น
นี่ก็เป็นสิ่งที่ควรพิจารณา