เข้าใจให้ลึกซึ้งถึงความเป็นธรรมธาตุ


    เพราะฉะนั้นในขณะที่กำลังฟังให้ทราบว่า เราต้องเข้าใจธรรมละเอียดตั้งแต่ต้นว่า เป็นธรรม ไม่มีเรา เพื่อที่จะได้เอาเราออก ถ้ามีเรา มีความทุกข์ เราก็ต้องเป็นอย่างนี้ ดีอย่างนั้น ถ้าเราไม่ดีอย่างนั้น เราก็ต้องเดือดร้อนใจอย่างโน้น สารพัดที่จะเดือดร้อน แต่ว่าถ้าเป็นธรรมล้วนๆ เราจะเข้าใจถูกว่า อกุศลก็เป็นอกุศล เกิดเพราะเหตุปัจจัยแล้วก็ดับ แม้กุศลก็เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยแล้วก็ดับไปแล้ว เป็นของใครที่ไหน ถ้าเข้าใจลึกซึ้งถึงความเป็นธาตุแต่ละอย่าง เป็นธาตุจริงๆ เป็นธรรมธาตุ ก็จะเห็นได้ว่า แม้ขณะที่กำลังจะฟังขณะนี้ มีเหตุปัจจัยที่จะได้ฟังแล้ว แต่ว่าความสัทธา ความสนใจ ปัญญาที่ได้สะสมมามากพอที่จะฟังต่อไปหรือเปล่า หรือว่ามีโอกาสเพียงแค่ได้ฟัง แต่ว่าก็ไม่ได้ติดตาม หรือว่าไม่ได้สนใจต่อไป ก็ต้องคอยไปอีกนานแสนนานกว่าจะมีโอกาสได้ยินได้ฟังอีก แล้วค่อยๆ เห็นประโยชน์ขึ้นทีละเล็กทีละน้อยแต่ถ้าสะสมมามาก อย่างคนที่ในครั้งพุทธกาล บางท่านโกรธพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ไปเฝ้า ฟังธรรม รู้เลยว่าไม่เคยได้ยินคำอย่างนี้มาก่อน แล้วก็สามารถที่จะเข้าใจได้ แล้วก็บางท่านก็รู้อริยสัจธรรมได้

    เพราะฉะนั้นแต่ละชีวิตที่จะมาสู่พระธรรมอาจจะมาโดยลักษณะต่างๆกัน ในสมัยโน้นคนเห็นผิดก็มีเยอะ แล้วก็ไปฟังพระธรรมจึงได้เกิดความเห็นถูกขึ้น ทุกกาลสมัยก็เป็นอย่างนี้ แต่ละคนก็เป็นแต่ละ ๑ ไม่ซ้ำกันเลยในที่นี้แต่ละชีวิตที่ผ่านมา แต่ก็เป็นชีวิตที่สังขารขันธ์มีโอกาสที่จะเป็นสังขารปรุงแต่งจนกระทั่งสามารถที่จะได้ฟังในขณะนี้


    หมายเลข 3321
    26 ส.ค. 2558